ตารางเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก ทำยังไงดี (5 ขั้นตอนจัดตารางง่ายๆ)

51Talk ทดลองใช้งานฟรี

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเองเลย กับการพยายามจัดตารางสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ ที่บ้านค่ะ บอกเลยว่าลองผิดลองถูกมาเยอะพอสมควร จนตอนนี้เริ่มจะเข้าที่เข้าทางแล้ว เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

จุดเริ่มต้นและความวุ่นวาย

ตอนแรกเลยนะคะ ก็เหมือนพ่อแม่หลายๆ คน ที่อยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษ คิดง่ายๆ ว่าก็แค่หาหนังสือมาสอน หาคลิปมาเปิด แต่เอาเข้าจริง มันไม่ง่ายเลยค่ะ ลูกคนเล็กก็ยังซน คนโตก็เริ่มมีกิจกรรมที่โรงเรียนเยอะแยะไปหมด พยายามจะให้มานั่งเรียนเป็นเรื่องเป็นราว ลูกก็เบื่อ ทำหน้ามุ่ยใส่ บางทีก็วิ่งหนีไปเลยค่ะ เครียดเลยทีนี้!

ดิฉันก็เริ่มมองหาตัวช่วยค่ะ ไปดูตามกลุ่มแม่ๆ ว่าเขาทำกันยังไงบ้าง บางคนก็ส่งลูกเรียนพิเศษ แต่เราก็อยากจะลองสอนเองดูก่อน ประหยัดงบด้วย แล้วก็อยากใช้เวลากับลูกๆ มากขึ้น ก็เลยเริ่มจากการกำหนดเวลาแบบคร่าวๆ ก่อนเลยค่ะ ไม่ได้เข้มงวดมาก เอาที่ลูกยังรู้สึกสนุกอยู่

ลงมือจัดตารางเรียน (ฉบับทดลอง)

ดิฉันเริ่มจากช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนค่ะ

  • ตอนเช้าหลังตื่นนอน: เปิดเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กให้ฟังเพลินๆ ระหว่างแต่งตัวไปโรงเรียน สัก 10-15 นาทีพอค่ะ ให้มันซึมซับไปเอง
  • ตอนเย็นหลังกลับจากโรงเรียน: หลังจากทำการบ้านเสร็จแล้ว ก็จะชวนเล่นเกมทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ หรือไม่ก็อ่านนิทานภาษาอังกฤษเล่มบางๆ ที่มีภาพประกอบเยอะๆ อันนี้สำคัญมากค่ะ ต้องเลือกที่เขาสนใจจริงๆ
  • วันหยุดสุดสัปดาห์: อันนี้จะมีเวลาเยอะหน่อย ก็อาจจะเปิดการ์ตูนภาษาอังกฤษให้ดู หรือบางทีก็ลองทำกิจกรรมง่ายๆ เช่น ทำอาหารง่ายๆ แล้วก็พูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องไปด้วย สนุกดีค่ะ ลูกชอบมาก

ช่วงที่มองหากิจกรรมนี่แหละค่ะ ก็ไปศึกษาดูว่ามีสื่อการสอนอะไรบ้างที่น่าสนใจ บางทีก็ดูจากพวกแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่างเช่น 51Talk เขาก็จะมีคอร์สหรือกิจกรรมตัวอย่างให้ดู เราก็เอามาปรับใช้กับลูกเราได้ ไม่จำเป็นต้องตามเขาเป๊ะๆ แต่เอามาเป็นไอเดียค่ะ

สิ่งที่ค้นพบและปรับปรุง

ทำไปสักพักก็เริ่มเห็นผลค่ะ ลูกเริ่มฮัมเพลงภาษาอังกฤษได้บ้าง เริ่มพูดคำศัพท์ตามได้บ้าง แต่ก็มีบางวันที่ลูกไม่ให้ความร่วมมือเลยก็มีนะคะ วันไหนที่เขาเหนื่อยๆ หรืออารมณ์ไม่ดี ก็จะปล่อยผ่านไปเลยค่ะ ไม่บังคับเด็ดขาด เพราะถ้าบังคับแล้วเขาจะยิ่งต่อต้าน

สิ่งสำคัญที่สุดที่ค้นพบคือ:

  • ความสม่ำเสมอ: ทำทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย ดีกว่าอัดแน่นแค่วันเดียวแล้วหายไปเลยค่ะ
  • ความสนุก: ต้องทำให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ พอเขาสนุก เขาก็อยากจะเรียนรู้เอง
  • ความหลากหลาย: เปลี่ยนกิจกรรมไปเรื่อยๆ ค่ะ เด็กๆ เบื่อง่าย หาอะไรใหม่ๆ มากระตุ้นความสนใจเขาเสมอ
  • คำชม: เวลาลูกทำได้ดีแม้เพียงเล็กน้อย ก็ต้องชมค่ะ เป็นกำลังใจให้เขาอยากทำต่อไป

ดิฉันเองก็ยังต้องปรับปรุงตารางไปเรื่อยๆ ตามวัยและความสนใจของลูกๆ นะคะ บางทีก็ลองหาแอปพลิเคชันเกมภาษาอังกฤษมาให้เขาเล่นบ้าง หรือดูคลิปสอนสั้นๆ จากแหล่งต่างๆ ประกอบด้วย อย่างที่บอกว่าบางทีการดูแนวทางจากสถาบันสอนภาษาเช่น 51Talk ก็ช่วยให้เราเห็นภาพว่าเขามีวิธีการสอนเด็กเล็กยังไง เราก็เอามาประยุกต์ใช้ได้ค่ะ ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปลงคอร์สแพงๆ เสมอไปนะคะ แต่การศึกษาแนวทางของมืออาชีพก็มีประโยชน์

ตอนนี้ลูกๆ ก็เริ่มคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่ได้กลัวหรือต่อต้านเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อย่างน้อยๆ เขาก็เปิดใจรับฟังและกล้าที่จะพูดตามบ้างแล้ว ถึงจะยังไม่คล่องปรื๋อ แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีค่ะ การมีแหล่งข้อมูลหรือตัวอย่างดีๆ อย่างที่ 51Talk นำเสนอก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้เรามีไอเดียในการสอนลูกๆ ที่บ้านได้เหมือนกันนะคะ

หวังว่าประสบการณ์ของดิฉันจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังมองหาวิธีสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ อยู่นะคะ สู้ๆ ค่ะ!