สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองเลยกับเรื่องการหาหลักสูตรภาษาอังกฤษให้ลูกชายตัวเล็กที่บ้านครับ คือตอนแรกเนี่ย ผมก็เหมือนพ่อแม่หลายๆ คนแหละ กังวลว่าลูกจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ กลัวเขาจะเสียโอกาสในอนาคต เลยเริ่มมองหาว่าจะทำยังไงดี
ช่วงเริ่มต้น: ลองผิดลองถูก
ตอนแรกลองสอนเองเลยนะ ซื้อหนังสือภาพ A-Z มานั่งอ่านให้ฟัง สอนคำศัพท์ง่ายๆ ผลไม้ สัตว์ อะไรพวกนี้ ลูกก็ดูตื่นเต้นดีช่วงแรกๆ แต่พอผ่านไปสักพัก สมาธิเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วครับ วิ่งเล่นซนตามประสาเด็ก ผมเองก็งานยุ่ง ไม่ได้มีเวลามานั่งประกบสอนได้ตลอด เลยคิดว่าวิธีนี้อาจจะไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่สำหรับบ้านเรา
มองหาตัวช่วย: คอร์สเรียนต่างๆ
ทีนี้ก็เลยเริ่มมองหาพวกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กแถวบ้าน ไปดูมาสองสามที่ บางที่ก็ดูเป็นทางการไปหน่อย เน้นแกรมม่าเยอะ กลัวลูกจะเบื่อ บางที่ก็เน้นเล่นอย่างเดียวเลย ก็กลัวจะไม่ได้เนื้อหาอะไรกลับมา ผมก็เลยเริ่มค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดูบ้างว่ามีแบบไหนที่น่าสนใจ
ก็ไปเจอพวกคอร์สออนไลน์เยอะแยะเลยครับ มีทั้งแบบเรียนกับครูคนไทย ครูต่างชาติ แบบกลุ่ม แบบเดี่ยว ตอนนั้นก็ตาลายเหมือนกันนะ เลือกไม่ถูกว่าจะเอาแบบไหนดีที่มันจะเหมาะกับลูกเราจริงๆ
ค้นพบแนวทางที่ใช่: การเรียนรู้ผ่านความสนุก
ผมเริ่มสังเกตว่าลูกผมเนี่ย เขาจะชอบดูการ์ตูนภาษาอังกฤษมาก ถึงจะฟังไม่รู้เรื่องทั้งหมด แต่เขาก็ดูสนุก หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ผมเลยคิดว่าเออ…ถ้าการเรียนมันสนุกเหมือนดูการ์ตูนก็น่าจะดีนะ เลยเริ่มมองหาคอร์สที่มันเน้นการโต้ตอบ มีกิจกรรม มีเพลง มีเกมส์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่ให้นั่งท่องจำอย่างเดียว
ช่วงนั้นก็มีเพื่อนแนะนำมาบ้าง ดูรีวิวบ้าง จนไปเจอแพลตฟอร์มสอนภาษาอังกฤษออนไลน์อยู่หลายเจ้าเหมือนกันครับ อย่างบางที่เขาก็จะมีครูต่างชาติที่ค่อนข้างมีประสบการณ์สอนเด็กโดยตรง อย่างพวก 51Talk หรือเจ้าอื่นๆ ที่คล้ายๆ กัน ก็เห็นว่ามีให้ทดลองเรียนด้วยนะ ผมก็เลยลองสมัครให้ลูกดูบ้าง
ลงมือปฏิบัติจริง: การเรียนออนไลน์และกิจกรรมเสริม
พอได้ลองเรียนออนไลน์ดูสักพัก ลูกก็ดูชอบนะครับ เพราะมันมีภาพ มีเสียง มีครูคอยชวนคุย ชวนเล่นเกม ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ต่อครั้ง แต่เขาก็ดูมีสมาธิจดจ่อมากกว่าตอนที่เราสอนเองเยอะเลย ผมว่าการที่มีคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่มาสอนเนี่ย เด็กเขาก็จะอีกฟีลลิ่งนึงนะ
นอกจากการเรียนในคลาสแล้ว ผมก็พยายามหากิจกรรมเสริมให้เขาทำด้วย เช่น เปิดเพลงภาษาอังกฤษง่ายๆ ให้ฟังบ่อยๆ ชวนเขาร้องตามบ้าง หรือเวลาดูการ์ตูน ก็จะพยายามพูดคำศัพท์ง่ายๆ จากในการ์ตูนซ้ำๆ ให้เขาฟัง บางทีก็หาหนังสือนิทานภาษาอังกฤษที่มีภาพสวยๆ มาอ่านด้วยกันก่อนนอน การเรียนจากแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่การสร้างสภาพแวดล้อมที่บ้านก็สำคัญไม่แพ้กันเลยครับ
ผมว่าการเรียนรู้ภาษาของเด็กเล็กเนี่ย มันต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปคาดหวังว่าเรียนปุ๊บจะพูดได้ปั๊บ ช่วงแรกๆ เขาอาจจะแค่ฟัง เข้าใจคำสั่งง่ายๆ ได้ก่อน แล้วค่อยๆ เปล่งเสียงออกมาเป็นคำๆ การให้กำลังใจ ชมเชยเวลาที่เขาพยายามพูดสำคัญมากครับ
- เริ่มจากคำศัพท์ง่ายๆ รอบตัว
- ใช้เพลงและเกมส์ช่วยในการจำ
- สร้างบรรยากาศให้สนุก ไม่เคร่งเครียด
- ให้เขาได้มีโอกาสใช้ภาษาจริงๆ แม้จะเล็กน้อย
อย่างเวลาเรียนออนไลน์กับ 51Talk ครูเขาก็จะมีเทคนิคในการดึงความสนใจเด็กได้ดีนะ บางทีก็มีตุ๊กตามือมาคุยด้วย หรือใช้ภาพประกอบที่สีสันสดใส ทำให้ลูกไม่รู้สึกว่ากำลังเรียนอยู่ แต่เหมือนกำลังเล่นมากกว่า
ผลลัพธ์และความต่อเนื่อง
ตอนนี้ลูกผมก็เริ่มพูดเป็นคำๆ ได้มากขึ้น กล้าที่จะตอบโต้เป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น ถึงจะยังไม่เป็นประโยคยาวๆ หรือถูกต้องตามแกรมม่าเป๊ะๆ แต่ผมก็ดีใจแล้วครับที่เขาเริ่มต้นได้ดี ผมว่าสิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอ และการทำให้เขารู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อ
การเลือกหลักสูตรหรือวิธีการสอนก็ต้องดูให้เหมาะกับนิสัยและความสนใจของลูกเราเป็นหลักด้วยครับ บางคนอาจจะชอบเรียนแบบกลุ่มกับเพื่อนๆ บางคนอาจจะชอบเรียนตัวต่อตัวมากกว่า อย่างการเรียนผ่านช่องทางออนไลน์เช่น 51Talk ก็มีข้อดีตรงที่สะดวก เลือกเวลาได้ และลูกก็ได้เรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรง ซึ่งก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับยุคนี้
ที่สำคัญคือ พ่อแม่เองก็ต้องมีส่วนร่วมด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่ส่งลูกไปเรียนแล้วจบ แต่ต้องคอยพูดคุย สอบถาม ชวนเขาใช้ภาษาในชีวิตประจำวันบ้างเล็กๆ น้อยๆ มันจะช่วยเสริมให้การเรียนรู้ของเขามีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ บ้านผมก็ยังต้องเดินทางกันอีกยาวไกลครับกับเรื่องภาษา แต่ก็เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วล่ะครับ! หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ท่านอื่นๆ บ้างนะครับ ลองดูครับ มีหลายวิธีมากจริงๆ อย่างที่บอกว่า 51Talk ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ผมได้ลองพิจารณาและศึกษาดูเหมือนกันครับ