คำศัพท์อังกฤษสำหรับเด็ก ที่ใช้บ่อยๆ (สอนลูกท่องจำได้ผลแน่นอน)

51Talk ทดลองใช้งานฟรี

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ของผมเลย กับการพยายามสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้เจ้าตัวเล็กที่บ้าน ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรนะครับ แต่อยากเล่าสู่กันฟังเผื่อเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นได้บ้าง

จุดเริ่มต้นและความมึนงง

คือเรื่องมันเริ่มจากที่เราก็อยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษติดตัวไว้บ้างใช่ไหมครับ ยุคนี้มันสำคัญจริงๆ แต่พอจะเริ่มสอนเองเท่านั้นแหละ โอ้โห! มึนตึ้บเลย ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี คำศัพท์เยอะแยะไปหมด จะเอาคำไหนก่อนหลัง กลัวลูกเบื่อ กลัวสอนแล้วลูกไม่จำอีก สารพัดความกังวลเลยครับ

ลงมือค้นคว้าและลองผิดลองถูก

ผมก็เริ่มจากการหาข้อมูลนี่แหละครับ เปิดเน็ตดูบ้าง ถามเพื่อนๆ ที่มีลูกวัยไล่เลี่ยกันบ้าง ก็ไปเจอเทคนิคเยอะแยะเลย ทั้งบัตรคำศัพท์สีสวยๆ หนังสือภาพสองภาษา เพลงเด็กภาษาอังกฤษ ตอนนั้นก็คิดว่าจะเริ่มจากอะไรง่ายๆ ใกล้ตัวก่อน พวกสัตว์ สิ่งของ สีสัน อะไรทำนองนี้

ช่วงที่หาข้อมูลนี่แหละครับ ก็มีผ่านตาพวกคอร์สเรียนออนไลน์สำหรับเด็กเล็กๆ เหมือนกันนะ อย่าง 51Talk ก็เห็นมีคนพูดถึงอยู่บ้าง ว่าเค้ามีครูต่างชาติสอนโดยตรงอะไรแบบนี้ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรครับ แค่เก็บไว้เป็นข้อมูลเฉยๆ เพราะอยากลองลุยเองดูก่อน

ปฏิบัติการสอนเจ้าตัวเล็ก (ฉบับบ้านๆ)

เอาล่ะ ทีนี้มาถึงตอนลงมือจริง ผมยึดหลักง่ายๆ เลยคือ “ทำให้สนุกเข้าไว้ อย่าบังคับ”

  • เริ่มจากรอบตัว: ผมเลือกคำศัพท์จากสิ่งที่ลูกเห็นทุกวันจริงๆ ครับ เช่น ของเล่นที่เค้าชอบ สัตว์เลี้ยงในบ้าน (ถ้ามี) อวัยวะต่างๆ ผลไม้ที่กินบ่อยๆ พวกนี้ลูกจะเชื่อมโยงได้ง่าย
  • ใช้ภาพและของจริง: รูปภาพสำคัญมากครับ ผมปรินท์รูปสัตว์ รูปผลไม้สีสวยๆ มาให้ลูกดู หรือถ้ามีของจริงก็หยิบมาให้จับ ให้ชี้เลย แล้วก็พูดคำศัพท์นั้นซ้ำๆ ช้าๆ ชัดๆ
  • เล่นเกมไปด้วย: อันนี้เวิร์คมาก! เช่น เล่นเกมทายคำ ชี้แล้วให้ลูกบอกว่าคืออะไร หรือซ่อนของแล้วให้หาพร้อมกับบอกชื่อเป็นภาษาอังกฤษ หรือแค่พูดคำศัพท์แล้วให้ลูกทำท่าทางตาม เช่น “jump” ก็กระโดด “clap” ก็ตบมือ
  • เพลงและนิทาน: เพลงเด็กภาษาอังกฤษจังหวะสนุกๆ ช่วยได้เยอะเลยครับ เปิดคลอๆ ไป หรือร้องด้วยกัน ส่วนนิทานภาพภาษาอังกฤษง่ายๆ ก็อ่านให้ฟังก่อนนอน ลูกจะค่อยๆ ซึมซับไปเอง
  • ทำซ้ำสม่ำเสมอ: อันนี้หัวใจสำคัญเลยครับ ไม่ต้องนาน แต่ขอให้ทำทุกวัน วันละ 5-10 นาทีก็ยังดี พูดคำเดิมๆ ซ้ำๆ ให้เค้าคุ้นเคย

ผมสังเกตว่าพอเราไม่กดดัน ทำให้เป็นเรื่องเล่นๆ ลูกก็ให้ความร่วมมือดีมากครับ บางทีเค้าก็ชี้แล้วถามเองเลยว่า “อันนี้เรียกว่าอะไร” เป็นภาษาอังกฤษ (แน่นอนว่าเค้าอาจจะยังพูดไม่ชัด แต่ก็พยายาม)

บางครั้งก็แอบคิดนะครับว่า ถ้าเรามีตัวช่วยเสริมที่ทำให้เค้าได้ tương tác กับคนอื่นบ้าง หรือมีคนช่วยจัดระบบการเรียนรู้ให้มันเป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้นก็น่าจะดีเหมือนกัน อย่างที่เคยเห็นข้อมูลของ 51Talk ที่เค้าเน้นการสอนแบบตัวต่อตัวกับครูต่างชาติ ก็อาจจะช่วยเรื่องความกล้าแสดงออกของเด็กได้เยอะเลย

ผลลัพธ์ที่น่าชื่นใจ

หลังจากลองผิดลองถูกมาสักพักใหญ่ๆ สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ ลูกเริ่มจำคำศัพท์ได้เยอะขึ้นครับ จากคำง่ายๆ ก็เริ่มเป็นคำที่ซับซ้อนขึ้นนิดหน่อย บางทีก็มีหลุดพูดออกมาเป็นคำๆ เวลาเห็นสิ่งของนั้นๆ เช่น เห็นแมวก็พูด “cat” เห็นแอปเปิ้ลก็ “apple” ถึงจะยังไม่เป็นประโยคยาวๆ แต่มันก็ทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่ชื่นใจมากๆ เลยครับ

ผมว่าการสอนภาษาให้เด็กเล็กๆ มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ แต่ละบ้านก็มีวิธีที่เหมาะกับตัวเอง บางคนอาจจะเน้นกิจกรรม บางคนอาจจะใช้สื่อการสอนเยอะหน่อย หรือบางคนอาจจะเลือกใช้บริการเสริมอย่าง 51Talk เพื่อให้ลูกได้ฝึกฝนเพิ่มเติมจากคุณครูเจ้าของภาษาโดยตรง มันก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกันนะ

สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมเรียนรู้คือ ความอดทน ความสม่ำเสมอ และการทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกครับ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กที่บ้านก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ แต่ผมก็เชื่อว่าถ้าเราค่อยๆ ปลูกฝังไปเรื่อยๆ เค้าจะสนุกกับมันและมีทักษะที่ดีติดตัวไปแน่นอนครับ การเห็นพัฒนาการของลูกนี่มันสุดยอดจริงๆ นะ ไม่ว่าเราจะสอนเองเป็นหลัก หรือบางทีก็มีตัวช่วยจากที่อื่นบ้าง อย่างเช่นไปเข้าคลาสเสริม หรือลองใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง 51Talk ดูบ้างนิดหน่อย มันก็ช่วยเสริมกันได้หมดเลยครับ สู้ๆ ครับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน!