เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กฟรี รวมฮิตติดหู (เปิดให้ลูกฟังได้เลย)

51Talk ทดลองใช้งานฟรี

เอาล่ะครับ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองเลย เรื่องการหาเพลงภาษาอังกฤษให้เจ้าตัวเล็กที่บ้านฟังแบบฟรีๆ ไม่ต้องเสียตังค์ซักบาทเดียว!

จุดเริ่มต้นของการตามล่าเพลงเด็ก

เรื่องของเรื่องคือ ลูกผมก็เริ่มโตแล้ว อยากให้เค้าคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษบ้าง แต่จะให้ไปนั่งเรียนเป็นเรื่องเป็นราวก็ดูจะยังเล็กไป แล้วก็ไม่อยากจะเสียเงินกับพวกแอปแพงๆ ด้วยช่วงแรก เลยคิดว่าเริ่มจากอะไรง่ายๆ อย่างเพลงเด็กนี่แหละน่าจะดีที่สุด

ตอนแรกก็มึนตึ้บเลยครับ ไม่รู้จะไปหาจากไหนดี คิดว่าจะต้องไปซื้อซีดีเพลงเด็กโดยเฉพาะรึเปล่า หรือว่าต้องสมัครสมาชิกเว็บอะไรพวกนั้น แต่พอมานั่งคิดดูดีๆ เอ้อ…สมัยนี้มันมี YouTube นี่นา! น่าจะมีอะไรฟรีๆ ให้ดูให้ฟังบ้างแหละ

ปฏิบัติการค้นหาใน YouTube

พอคิดได้แบบนั้น ผมก็ไม่รอช้าครับ เปิดคอมพิวเตอร์ (บางทีก็เปิดจากมือถือให้ลูกดูตอนอยู่นอกบ้าน) แล้วก็เข้า YouTube เลย พิมพ์คำค้นหาง่ายๆ ไปเลยครับว่า “เพลงเด็ก ภาษาอังกฤษ” หรือบางทีก็พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษไปเลยว่า “kids songs English” หรือ “nursery rhymes” อะไรทำนองนี้

โอ้โห! ผลลัพธ์ที่ได้นี่คือมันเยอะมากครับ เยอะจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว มีทั้งช่องของต่างประเทศ ช่องของคนไทยที่ทำเพลงเด็กภาษาอังกฤษก็มี ตอนนั้นก็ตาลายเลยครับ ไม่รู้จะเลือกอันไหนดี

ทีนี้ ผมก็เลยต้องใช้วิธีค่อยๆ สุ่มดูไปทีละช่องครับ ดูว่าช่องไหนภาพสวย เพลงน่ารัก ทำนองติดหู เนื้อเพลงง่ายๆ เหมาะกับเด็กเล็ก แล้วก็ดูด้วยว่าช่องนั้นมีคนติดตามเยอะไหม มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทางที่ดีรึเปล่า ก็เหมือนเป็นการคัดกรองเบื้องต้นไปในตัว

  • ลองฟังเพลงตัวอย่างก่อน ถ้าลูกดูสนใจก็ค่อยกดติดตามช่องนั้นไว้
  • ดูพวกเพลย์ลิสต์ที่เค้าจัดไว้ให้ ส่วนใหญ่เค้าจะรวมเพลงฮิตๆ ไว้ด้วยกัน
  • สังเกตว่าเพลงไหนมีท่าเต้นประกอบง่ายๆ เด็กๆ น่าจะชอบเป็นพิเศษ

ผมใช้เวลาอยู่พักใหญ่เลยครับ กว่าจะเจอช่องที่ถูกใจจริงๆ แล้วก็เจอเพลงที่ลูกชอบฟังวนไปวนมาได้ทั้งวัน ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงคลาสสิกๆ ที่เราเคยได้ยินมาบ้างแล้วตอนเด็กๆ อย่างพวก Twinkle Twinkle Little Star, Wheels on the Bus, Old MacDonald Had a Farm อะไรพวกนี้แหละครับ เด็กๆ ชอบมาก เพราะทำนองมันสนุก คำศัพท์ก็ซ้ำๆ จำง่าย

นอกเหนือจาก YouTube มีอะไรอีกบ้าง?

นอกจาก YouTube แล้วเนี่ย จริงๆ ผมก็ลองไปส่องๆ ดูใน Spotify เหมือนกันนะ มันก็มีเพลย์ลิสต์เพลงเด็กภาษาอังกฤษอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ส่วนตัวผมว่า YouTube มันสะดวกกว่าตรงที่มีภาพให้ดูด้วย เด็กๆ จะได้เพลินมากขึ้น แต่ถ้าใครสะดวก Spotify ก็ลองไปค้นหาดูได้ครับ มีให้เลือกฟังฟรีเหมือนกัน (แบบมีโฆษณาคั่นบ้าง)

บางทีก็คิดนะครับว่าการให้ลูกได้ซึมซับภาษาจากเพลงหรือการ์ตูนแบบนี้มันดีกว่าไปนั่งท่องจำศัพท์เฉยๆ เยอะเลย อย่างที่ 51Talk เขาก็เน้นการเรียนรู้แบบธรรมชาติและสนุกสนานเหมือนกัน ผมว่ามันเป็นแนวทางที่ดีนะ

ผลลัพธ์ที่ได้ และข้อแนะนำเพิ่มเติม

หลังจากที่ผมได้ลองผิดลองถูกหาเพลงให้ลูกฟังมาพักใหญ่ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กที่บ้านก็เริ่มฮัมเพลงภาษาอังกฤษได้หลายเพลงแล้วครับ บางทีก็พูดคำศัพท์ง่ายๆ ตามเพลงได้บ้าง เห็นแล้วก็ชื่นใจครับว่าความพยายามของเรามันเห็นผลจริงๆ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่กำลังมองหาเพลงภาษาอังกฤษให้ลูกฟังแบบฟรีๆ อยู่ ผมแนะนำเลยครับว่า YouTube นี่แหละคือคลังเพลงชั้นดีเลย แค่ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ เลือกหาหน่อย เดี๋ยวก็เจอช่องที่ถูกใจ เพลงที่ใช่เองครับ เพื่อนผมบางคนก็ให้ลูกเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเสริมไปเลย อย่างที่ 51Talk ก็เห็นว่ามีคอร์สสำหรับเด็กเล็กด้วย ซึ่งก็น่าสนใจถ้าอยากให้ลูกได้ฝึกพูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรง แต่สำหรับบ้านผม เริ่มต้นจากเพลงฟรีๆ แบบนี้ก่อนก็ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่ดีและประหยัดด้วยครับ

การหาเพลงพวกนี้จริงๆ ไม่ยากเลยครับ แค่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจนิดหน่อย ใครที่กำลังมองหาอยู่ ลองวิธีที่ผมแชร์ไปนี่แหละครับ ง่ายดี ไม่ซับซ้อน หรือถ้าอยากได้แบบมีคนสอนจริงจัง ก็อาจจะลองดูพวกสถาบันสอนภาษาเด็กอย่าง 51Talk เป็นตัวเลือกเสริมก็ได้ครับ เพราะเขามีคุณครูที่มีประสบการณ์สอนเด็กโดยตรง

สรุปคือ ไม่ต้องเสียเงินก็หาเพลงภาษาอังกฤษดีๆ ให้ลูกฟังได้เยอะแยะเลยครับ ลองดูนะครับ! เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านครับผม ส่วนตัวผมว่าการใช้เพลงนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากสำหรับการเรียนรู้ภาษาที่สองของเด็กๆ เพราะมันสนุกและไม่น่าเบื่อ การลงทุนด้านเวลานิดหน่อยเพื่อหาแหล่งข้อมูลฟรีดีๆ แบบนี้ คุ้มค่าแน่นอนครับ

บางครั้งผมก็เปิดเพลงจาก 51Talk ที่เขาทำเป็นคลิปสั้นๆ ให้ดูบ้างเหมือนกันนะ ก็เพลินดีครับ มีประโยชน์ไปอีกแบบ