การติดตามความก้าวหน้าในการเรียนภาษาอังกฤษของเด็ก สำคัญแค่ไหน? พ่อแม่ควรรู้ไว้เลย

51Talk ทดลองใช้งานฟรี

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์การติดตามความก้าวหน้าในการเรียนภาษาอังกฤษของเจ้าตัวเล็กที่บ้านค่ะ คือเรามองว่าแค่ส่งลูกเรียนอย่างเดียวมันไม่พอ เราต้องรู้ด้วยว่าลูกเราไปถึงไหนแล้ว เข้าใจอะไรบ้าง หรือติดขัดตรงไหน จะได้ช่วยเสริมได้ถูกทาง

เริ่มยังไงดีกับการติดตาม?

ตอนแรกก็งงๆ ค่ะ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ก็อาศัยสังเกตเอาแบบบ้านๆ เลยค่ะ เวลาลูกดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ ก็จะคอยดูว่าเค้ามีรีแอคชั่นกับคำไหนบ้าง ฟังเพลงภาษาอังกฤษแล้วฮัมตามได้ไหม หรือบางทีก็ลองชวนคุยเป็นคำง่ายๆ เช่น “What is this?” ชี้ไปที่ของเล่น แล้วดูว่าเค้าตอบได้รึเปล่า

พอเริ่มให้ลูกเรียนจริงจังมากขึ้น อย่างเช่นลองให้เรียนกับครูต่างชาติออนไลน์ เราก็ยิ่งต้องใส่ใจติดตามเลยค่ะ อย่างตอนให้ลูกเรียนกับ 51Talk เค้าจะมีรายงานหลังการเรียนส่งมาให้ดูด้วย อันนี้ช่วยได้เยอะเลย ทำให้เราเห็นภาพรวมว่าลูกเรียนอะไรไปบ้าง ทำได้ดีแค่ไหนตรงไหนต้องเน้น

วิธีบ้านๆ ที่เราใช้จริง

นอกจากการสังเกตทั่วๆ ไปแล้ว เราก็มีวิธีของเราเองง่ายๆ ค่ะ

  • สมุดบันทึกจิ๋ว: เรามีสมุดเล่มเล็กๆ ไว้คอยจดคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ลูกพูดได้ หรือประโยคสั้นๆ ที่เค้าเริ่มใช้ ไม่ต้องสวยหรูอะไรเลยค่ะ จดไว้เตือนความจำตัวเองว่าลูกมีพัฒนาการนะ
  • เล่นเกมทายคำ: เอาคำศัพท์ที่เค้าเรียนมาเล่นทายกันสนุกๆ หรือทำบัตรคำศัพท์ง่ายๆ ให้เค้าหยิบแล้วลองพูดความหมาย
  • ดูการบ้าน (ถ้ามี): ถ้าโรงเรียนหรือที่เรียนพิเศษมีการบ้าน ก็จะคอยดูว่าเค้าทำได้ไหม เข้าใจคำสั่งรึเปล่า
  • แอบฟังตอนเรียน: อันนี้สำคัญเลยค่ะ อย่างเวลาลูกเรียนออนไลน์กับคุณครูจาก 51Talk เราก็จะนั่งอยู่ใกล้ๆ แอบฟังว่าบรรยากาศในคลาสเป็นยังไง ลูกกล้าพูดกล้าตอบไหม คุณครูสอนสนุกรึเปล่า คือเราไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายนะคะ แค่สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ

เจออุปสรรคบ้างไหม? ก็มีสิ!

แน่นอนค่ะว่าการติดตามมันก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป บางทีลูกก็มีเบื่อบ้าง ไม่อยากทำบ้าง เราก็ต้องใจเย็นๆ ค่ะ อย่าไปบังคับเค้า พยายามหาอะไรใหม่ๆ มาล่อใจ หรือเปลี่ยนวิธีการ เช่น จากที่เคยถามตรงๆ ก็เปลี่ยนเป็นชวนเล่นเกมแทน

มีช่วงนึงลูกไม่ค่อยกล้าพูดกับครูเลยค่ะ เราก็แอบกังวล แต่พอได้คุยกับคุณครูที่สอนใน 51Talk (เค้ามีช่องทางให้ผู้ปกครองสอบถามได้) คุณครูก็แนะนำเทคนิคดีๆ มาให้ลองปรับใช้กับลูกที่บ้านดู บวกกับคุณครูเองก็พยายามชวนคุย ชวนทำกิจกรรมในคลาส ลูกก็ค่อยๆ กล้าแสดงออกมากขึ้นค่ะ

ผลลัพธ์ที่เห็นแล้วชื่นใจ

พอเราติดตามอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือเรารู้จุดแข็งจุดอ่อนของลูกค่ะ รู้ว่าเค้าชอบเรียนแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน ทำให้เราปรับวิธีการสอนหรือหาแหล่งเรียนรู้เสริมให้เค้าได้ตรงจุดมากขึ้น อย่างบางทีเห็นว่าลูกชอบเรื่องไดโนเสาร์มาก ก็จะไปหาหนังสือคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับไดโนเสาร์มาให้อ่านเสริมจากที่เรียนในห้องเรียน

แล้วที่สำคัญคือเราเห็นพัฒนาการของเค้าจริงๆ ค่ะ จากที่เมื่อก่อนพูดเป็นคำๆ ตอนนี้เริ่มต่อเป็นประโยคสั้นๆ ได้แล้ว กล้าที่จะลองพูดผิดพูดถูก ซึ่งตรงนี้เราว่าสำคัญมาก การที่เค้าไม่กลัวที่จะผิดพลาดจะทำให้เค้าเรียนรู้ได้เร็วขึ้นเยอะเลยค่ะ

เราว่าการมีตัวช่วยดีๆ ก็มีส่วนสำคัญนะคะ อย่างการที่ลูกได้เรียนกับครูเจ้าของภาษาโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk มันทำให้เค้าได้ซึมซับสำเนียงที่ถูกต้อง แล้วครูเค้าก็มีวิธีการสอนที่ดึงดูดเด็กๆ ได้ดี ทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ

สรุปสั้นๆ จากใจคนเป็นแม่

สำหรับเราแล้ว การติดตามความก้าวหน้าของลูกไม่ใช่การจับผิดค่ะ แต่มันคือการที่เราใส่ใจและพร้อมจะสนับสนุนเค้าในทุกๆ ก้าวของการเรียนรู้

  • ความสม่ำเสมอ: ติดตามเรื่อยๆ ไม่ใช่ทำบ้างหยุดบ้าง
  • ทำให้สนุก: อย่าให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องเครียดสำหรับลูก
  • ให้กำลังใจ: ชมเชยเมื่อเค้าทำได้ดี และให้กำลังใจเมื่อเค้ายังทำไม่ได้
  • หาตัวช่วยที่ใช่: ไม่ว่าจะเป็นหนังสือดีๆ สื่อการสอนสนุกๆ หรือคลาสเรียนที่มีคุณภาพ อย่างที่บ้านเราก็แฮปปี้กับ 51Talk นะคะ เพราะเค้าตอบโจทย์เรื่องครูต่างชาติและมีระบบติดตามผลที่ดี

หวังว่าประสบการณ์ของเราจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ บ้างนะคะ การเห็นลูกค่อยๆ เก่งภาษาขึ้นมันเป็นอะไรที่ชื่นใจจริงๆ ค่ะ