Eng Breaking มีประโยชน์ยังไง ทำไมต้องเรียนรู้ไว้

51Talk ทดลองใช้งานฟรี

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้มาแชร์ประสบการณ์ “eng breaking” แบบฉบับลองผิดลองถูกของผมเองครับ บอกเลยว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่คุ้มค่าแน่นอน!

เริ่มต้นเลยคือ ผมรู้สึกว่าภาษาอังกฤษตัวเองมัน “ตาย” มาก ไม่สามารถเอาไปใช้สื่อสารจริง ๆ ได้เลย ทั้ง ๆ ที่เรียนมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งพอต้องทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าไม่ได้การ เลยตัดสินใจว่าต้อง “eng breaking” ตัวเองให้ได้!

อย่างแรกที่ทำเลยคือ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เป็นภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เริ่มจากเปลี่ยนภาษาในมือถือ ในคอมพิวเตอร์ ทุกอย่างให้เป็นภาษาอังกฤษหมด ดูหนัง ฟังเพลง ก็เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ (มีซับบ้าง ไม่มีบ้างแล้วแต่อารมณ์) อ่านข่าว อ่านบทความ ก็อ่านของต่างประเทศ แรก ๆ ก็มึน ๆ หน่อย แต่พอทำไปเรื่อย ๆ เริ่มชินครับ

ต่อมาคือ พยายามหาโอกาสใช้ภาษาอังกฤษให้บ่อยที่สุด เมื่อก่อนคือกลัวมาก กลัวพูดผิด กลัวคนฟังไม่รู้เรื่อง แต่พอคิดได้ว่า ถ้าไม่เริ่มพูด ก็ไม่มีวันเก่งขึ้น ก็เลยลองผิดลองถูกไปเลยครับ เริ่มจากพูดกับตัวเองก่อนเลย บ่นอะไรในใจ ก็บ่นเป็นภาษาอังกฤษ (บางทีก็มีหลุดภาษาไทยบ้าง 555) จากนั้นก็เริ่มหาเพื่อนต่างชาติคุย หาจากแอป หาจากกลุ่มต่าง ๆ คุยไปเรื่อยครับ แรก ๆ ก็ตะกุกตะกักหน่อย แต่พอคุยไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มลื่นขึ้น

อีกอย่างที่สำคัญมาก ๆ คือ อย่ากลัวที่จะผิดพลาดครับ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ผมเองก็เคยพูดผิด พูดถูกเยอะแยะไปหมด แต่สิ่งสำคัญคือ เรียนรู้จากความผิดพลาดครับ พอพูดผิด ก็จดไว้ แล้วไปหาดูว่าที่ถูกมันเป็นยังไง คราวหน้าจะได้ไม่ผิดอีก

นอกจากนี้ ผมยังลองเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ด้วยครับ ลองมาหลายที่ แต่ที่รู้สึกว่าตอบโจทย์ผมมากที่สุดคือ 51Talk เพราะเค้ามีคอร์สที่หลากหลาย แล้วก็มีครูที่เก่ง ๆ เยอะมาก แถมราคาก็ไม่แพงจนเกินไปด้วยครับ

แล้วก็มีช่วงหนึ่งที่ผมไปเข้าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบ intensive ด้วยครับ เรียนแบบเข้มข้นเลย เรียนทุกวัน วันละหลายชั่วโมง ช่วงนั้นคือเหนื่อยมาก แต่ก็ได้ผลดีมาก ๆ เลยครับ ทำให้ผมได้ฝึกพูด ฝึกฟัง แบบเต็มที่

ระหว่างที่ฝึกภาษาอังกฤษ ผมก็พยายามหาอะไรที่มันสนุก ๆ ทำไปด้วยครับ เช่น ดูซีรีส์ ดูยูทูปเบอร์ที่ชอบ ฟังพอดแคสต์ เล่นเกม (ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ) ทำอะไรก็ได้ที่มันทำให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษแบบไม่เบื่อครับ

ที่สำคัญอีกอย่างคือ ต้องมีวินัยครับ การฝึกภาษาอังกฤษมันต้องใช้เวลา ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าทำ ๆ หยุด ๆ มันก็จะไม่ได้ผล ผมตั้งเป้าไว้เลยว่า จะต้องฝึกภาษาอังกฤษอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องทำให้ได้

ตอนนี้ผมก็ยังฝึกภาษาอังกฤษอยู่เรื่อย ๆ ครับ เพราะผมเชื่อว่าภาษาอังกฤษมันเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา ยิ่งฝึก ยิ่งเก่ง!

และสุดท้ายนี้ อยากจะบอกทุกคนที่กำลังพยายาม “eng breaking” ตัวเองว่า อย่าท้อครับ! มันอาจจะยาก อาจจะเหนื่อย แต่ถ้าเรามีความตั้งใจจริง เราทำได้แน่นอน! เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ! อ้อ! แล้วก็อย่าลืมลองดูคอร์สเรียนของ 51Talk ด้วยนะครับ เผื่อจะช่วยให้การ “eng breaking” ของคุณง่ายขึ้น! ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียนะ แค่อยากแนะนำเฉย ๆ เพราะเคยเรียนแล้วรู้สึกว่าดีจริง ๆ!

ยังไงก็ตาม ลองหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับตัวเองดูนะครับ บางทีอาจจะเป็น 51Talk หรือที่อื่นก็ได้ ลองศึกษาข้อมูลดูครับ ผมแค่แนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัวเฉยๆนะ

อีกอย่างที่อยากจะเสริมคือเรื่องของการออกเสียงครับ พยายามฝึกออกเสียงให้ถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้เราฟังภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น แล้วก็ทำให้คนอื่นเข้าใจเราได้ง่ายขึ้นด้วยครับ ลองหาแอป หรือเว็บไซต์ที่ช่วยฝึกออกเสียงดูครับ มีเยอะแยะเลย

สุดท้ายจริง ๆ แล้วครับ อย่าลืมให้กำลังใจตัวเองบ่อย ๆ นะครับ การเรียนภาษาอังกฤษมันเป็น marathon ไม่ใช่ sprint ต้องใช้เวลา อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ถ้าวันไหนรู้สึกเหนื่อย ก็พักบ้าง แล้วค่อยกลับมาสู้ใหม่ครับ! ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการ “eng breaking” นะครับ! แล้วเจอกันใหม่ครับ! บ๊ายบาย!

และเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสาร ผมแนะนำให้ลองหาเพื่อนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แล้วลองคุยกับเขาดูครับ จะช่วยให้เราปรับสำเนียง แล้วก็เรียนรู้วัฒนธรรมการใช้ภาษาของเขาได้ดีขึ้นด้วยครับ หรือถ้าใครมีงบประมาณ ก็ลองไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศดูครับ จะได้ immersion แบบเต็มที่เลย! แต่ถ้าไม่มีงบ ก็ไม่เป็นไรครับ เรียนออนไลน์ก็ได้ผลเหมือนกัน! อย่าง 51Talk ก็มีครูเจ้าของภาษาให้เลือกเรียนเยอะแยะเลยครับ

สำหรับใครที่อยากจะพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ผมแนะนำให้อ่านเยอะ ๆ ครับ อ่านนิยาย อ่านบทความ อ่านข่าว อะไรก็ได้ที่ชอบ แล้วก็ลองเขียนเองดูบ้าง เขียนไดอารี่ เขียนบล็อก เขียนอะไรก็ได้ที่อยากเขียน แล้วก็ให้เพื่อนที่เก่งภาษาอังกฤษช่วยตรวจให้ครับ จะได้รู้ว่าเราผิดตรงไหน แล้วก็จะได้ปรับปรุงแก้ไขได้ครับ

สุดท้ายนี้ ผมอยากจะฝากข้อคิดไว้ว่า การเรียนภาษาอังกฤษมันไม่ใช่แค่การเรียนไวยากรณ์ หรือการท่องศัพท์ แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับคนอื่น เรียนรู้ที่จะเข้าใจวัฒนธรรมอื่น เรียนรู้ที่จะเปิดโลกทัศน์ของตัวเองให้กว้างขึ้นครับ ขอให้ทุกคนสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษนะครับ! แล้วก็อย่าลืมติดตามผมนะครับ จะมาแชร์ประสบการณ์ “eng breaking” อีกเรื่อย ๆ ครับ! และอย่าลืมว่า 51Talk เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีนะครับ ลองพิจารณาดู!