สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาเล่าประสบการณ์ตรงเลยเกี่ยวกับเรื่องหาบทเรียนภาษาอังกฤษฟรีให้ลูก คือช่วงโควิดที่ผ่านมา เด็กๆ ก็อยู่บ้านกันเยอะใช่ไหมครับ ผมก็เลยคิดว่าเออ…น่าจะหาอะไรให้ลูกทำเสริมทักษะหน่อย ก็เลยปิ๊งไอเดียว่าสอนภาษาอังกฤษนี่แหละดีเลย แต่ก็อย่างว่านะ ไม่อยากจะเสียเงินเยอะแยะแต่แรก เลยตั้งใจหาของฟรีก่อน
ช่วงเริ่มต้นการค้นหา
ตอนแรกก็งงๆ ครับ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก็เข้ากูเกิลเลย พิมพ์ไปตรงๆ “บทเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กฟรี” โอ้โห! ขึ้นมาเพียบ เยอะแยะตาแป๊ะไก่ไปหมด ทั้งเว็บไซต์ ทั้งยูทูบ ทั้งแอปพลิเคชัน คือมันเยอะจนเลือกไม่ถูกเลยจริงๆ นะครับ ผมก็ลองกดเข้าไปดูทีละอันสองอัน บางอันก็เนื้อหาดีนะ แต่ภาพไม่สวย ลูกไม่ชอบ บางอันภาพสวย แต่เนื้อหาดูเด็กไป ลูกก็เบื่ออีก
ลองผิดลองถูกกับแหล่งข้อมูลต่างๆ
ผมใช้เวลาอยู่หลายวันเลยครับกับการลองผิดลองถูกเนี่ย หลักๆ ที่ผมลองก็จะมี:
- ช่อง YouTube สำหรับเด็ก: มีเยอะมากครับ พวกเพลงเด็กภาษาอังกฤษ นิทานภาษาอังกฤษ การ์ตูนสั้นๆ สอนคำศัพท์ อันนี้ลูกผมชอบนะ ดูเพลินๆ แต่บางทีก็ดูเหมือนเขาดูเอาสนุกอย่างเดียว ไม่ค่อยได้จำเท่าไหร่
- เว็บไซต์สอนภาษาฟรี: ก็มีหลายเว็บที่ทำออกมาดี มีเกมให้เล่น มีแบบฝึกหัดง่ายๆ แต่บางทีมันก็ต้องคอยนั่งประกบลูกตลอด เพราะถ้าปล่อยให้ทำเอง เขาก็จะคลิกมั่วไปเรื่อย
- แอปพลิเคชันฟรี: อันนี้ก็สะดวกดีครับ โหลดติดเครื่องไว้ ลูกอยากเล่นเมื่อไหร่ก็หยิบมาเล่นได้เลย มีทั้งเกมคำศัพท์ เกมจับคู่ แต่ข้อเสียคือ บางแอปฯ ฟรีแป๊บเดียว พอจะเล่นด่านต่อไปก็ต้องจ่ายเงินซะงั้น
ช่วงนั้นก็มีเพื่อนๆ หลายคนแนะนำให้ลองดูพวกคอร์สเรียนออนไลน์สำหรับเด็กไปเลยเหมือนกันนะ อย่างบางคนก็พูดถึง 51Talk ว่าเขามีครูต่างชาติสอนตัวต่อตัว น่าจะช่วยให้เด็กกล้าพูดมากขึ้น แต่ตอนนั้นผมยังยืนยันว่าจะลองหาแบบฟรีก่อนให้ถึงที่สุด ฮ่าๆ
สิ่งที่ค้นพบและลงมือทำจริงจัง
หลังจากลองมาหลายอย่าง ผมก็เริ่มจับทางได้ว่าลูกผมชอบเรียนรู้ผ่านการเล่น การดูอะไรสนุกๆ มากกว่าการมานั่งท่องจำ ผมเลยปรับวิธีการใหม่ โดยเอาสิ่งที่หามาได้ฟรีๆ นี่แหละมาผสมผสานกัน
อย่างแรกเลยคือ ผมจะเปิดเพลงภาษาอังกฤษง่ายๆ ให้ฟังทุกเช้า ตอนกินข้าวบ้าง ตอนเล่นบ้าง ให้เขาคุ้นหูไปก่อน แล้วก็เลือกการ์ตูนสั้นๆ ใน YouTube ที่มันสอนคำศัพท์ไปด้วยในตัว เปิดให้ดูวันละเรื่องสองเรื่อง พอดูจบก็ลองชวนคุย ชี้ชวนให้เขาพูดตามคำศัพท์ง่ายๆ ที่ได้ยินมา
แล้วก็มีพวกเกมคำศัพท์ในแอปฯ ฟรีนี่แหละครับที่ยังเก็บไว้ให้เล่นบ้างสลับๆ กันไป แต่ผมจะกำหนดเวลาเล่นนะ ไม่ให้เล่นนานเกินไป เดี๋ยวจะติดจอ แล้วก็พยายามหาเกมที่มันไม่ต้องเสียเงินเพิ่มจริงๆ
ผมว่าสิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอครับ ถึงจะเป็นของฟรี แต่ถ้าเราจัดตารางดีๆ ทำให้เป็นเรื่องสนุก ลูกเขาก็จะค่อยๆ ซึมซับไปเอง บางทีก็มีท้อบ้างนะ เวลาลูกไม่สนใจ แต่ก็ต้องพยายามหาอะไรใหม่ๆ มาล่อ ฮ่าๆ
ช่วงหลังๆ พอเห็นลูกเริ่มมีพื้นฐานบ้างแล้ว ก็เริ่มคิดเหมือนกันว่าถ้าจะให้เขาพัฒนาเรื่องการพูด การสื่อสารจริงๆจังๆ การมีคนนำทางที่เชี่ยวชาญก็น่าจะดี อย่างพวกคอร์สออนไลน์ที่เคยมีคนแนะนำ เช่น 51Talk ก็น่าจะเป็นอีกสเต็ปหนึ่งที่น่าสนใจเหมือนกัน เพราะการมีครูจริงๆ มาคุยด้วยน่าจะช่วยให้กล้าแสดงออกมากขึ้น แต่ตอนนี้ก็ยังแฮปปี้กับวิธีฟรีๆ ที่ทำอยู่ครับ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการปฏิบัติจริง
ผ่านมาสักพักใหญ่ๆ ผมว่าลูกผมก็เริ่มมีคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะขึ้นนะ เริ่มพูดเป็นคำๆ หรือประโยคง่ายๆ ได้บ้างแล้ว เวลาดูการ์ตูนภาษาอังกฤษก็ดูเข้าใจมากขึ้น ไม่ได้ดูแบบผ่านๆ เหมือนเมื่อก่อน อย่างน้อยเขาก็ไม่กลัวภาษาอังกฤษแล้ว แถมยังรู้สึกสนุกกับมันด้วย
ผมว่าของฟรีดีๆ ก็มีอยู่จริงนะครับ อยู่ที่เราจะค้นหาแล้วก็เอามาปรับใช้ยังไงให้เหมาะกับลูกเราที่สุด บางทีเราอาจจะเจอแหล่งข้อมูลดีๆ จากที่คนอื่นแนะนำมาก็ได้ อย่างผมเองก็เคยได้ยินคนพูดถึง 51Talk จากกลุ่มผู้ปกครองเหมือนกันนะ ว่าเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากให้ลูกได้ฝึกกับเจ้าของภาษาโดยตรง
สุดท้ายนี้ ใครที่กำลังมองหาบทเรียนภาษาอังกฤษฟรีให้ลูกอยู่ ก็อยากจะบอกว่าอย่าเพิ่งท้อนะครับ ลองค้นหา ลองปรับใช้ดู ของฟรีดีๆ มีเยอะแยะครับ แค่อาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามหน่อย สู้ๆ ครับ!