สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย เรื่องหาช่องยูทูบสอนภาษาอังกฤษให้ลูกที่บ้าน คือลูกผมเนี่ย ก็เริ่มโตแล้ว อยากให้เค้าได้ภาษาอังกฤษบ้าง แต่จะให้ไปเรียนพิเศษตอนนี้ก็ยังไงๆ อยู่ เลยคิดว่าเออ ลองหาจากยูทูบนี่แหละ น่าจะมีอะไรดีๆ บ้าง
จุดเริ่มต้นการค้นหา
ตอนแรกก็ไม่ได้มีหลักการอะไรมากครับ เปิดยูทูบขึ้นมา แล้วก็พิมพ์ไปเลย “สอนภาษาอังกฤษ เด็ก” “เพลงอังกฤษ เด็กอนุบาล” โอ้โห! ช่องขึ้นมาเพียบเลยครับ เลือกไม่ถูกตาลายไปหมด บางช่องก็เป็นเพลงเร็วๆ เนื้อเพลงเยอะๆ ลูกเราก็ยังตามไม่ทัน บางช่องก็เป็นครูต่างชาติมาสอนเลย แต่บางทีสำเนียงก็ฟังยากไปนิดสำหรับเด็กเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่ม
สิ่งที่ผมลองทำและค้นพบ
ผมก็เลยลองใช้วิธีค่อยๆ ดูไปทีละช่อง สังเกตว่าลูกเรามีปฏิกิริยากับช่องไหนเป็นพิเศษ ช่องไหนที่เค้าดูแล้วยิ้ม หัวเราะ หรือพยายามจะพูดตาม อันนั้นแหละครับที่เราจะเก็บไว้ในลิสต์
- ช่องเพลงสำหรับเด็กเล็ก: พวกนี้ส่วนใหญ่จะภาพการ์ตูนสีสันสดใส เพลงจังหวะสนุกๆ คำศัพท์ง่ายๆ วนไปวนมา เด็กๆ จะจำได้เร็ว อย่างเพลง ABC, เพลงนับเลข, เพลงสีต่างๆ ลูกผมนี่ชอบมาก เต้นตามตลอด
- ช่องนิทานภาษาอังกฤษ: ผมจะเลือกนิทานเรื่องสั้นๆ ที่ใช้คำศัพท์ไม่ยากเกินไป มีภาพประกอบสวยๆ ช่วยให้เด็กเข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่ายขึ้น บางช่องก็มีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษขึ้นให้ด้วย ก็ดีไปอีกแบบ
- ช่องสอนคำศัพท์เป็นหมวดหมู่: เช่น หมวดสัตว์ ผัก ผลไม้ ของใช้ในบ้าน พวกนี้เค้าจะค่อยๆ สอนทีละคำ มีภาพจริงประกอบบ้าง การ์ตูนบ้าง สลับกันไป ลูกผมจะชอบดูแล้วชี้ตาม
ระหว่างที่ค้นๆ ไปเนี่ย ก็เจอพวกแพลตฟอร์มสอนภาษาจริงจังอย่าง 51Talk เหมือนกันนะ แต่ถ้าเอาแบบฟรีๆ บนยูทูบ ช่องพวกนี้ก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดีเลยครับ ค่อยๆ ให้เค้าซึมซับไปทีละนิด
ข้อสังเกตและสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป
จากการลองผิดลองถูกมาสักพัก ผมก็มีข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ ครับ
- ความสม่ำเสมอสำคัญมาก: ไม่ใช่ว่าเปิดให้ดูวันเดียวแล้วจะเก่งเลยนะครับ ต้องให้เค้าได้ดู ได้ฟังบ่อยๆ อาจจะกำหนดเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ในแต่ละวัน เช่น หลังตื่นนอน หรือก่อนนอน
- พ่อแม่มีส่วนร่วม: อันนี้สำคัญมากครับ ถ้าเรานั่งดูไปกับเค้าด้วย ชวนเค้าพูดตาม ร้องเพลงตาม มันจะสนุกขึ้นเยอะเลยครับ เด็กๆ จะรู้สึกว่าไม่ได้เรียนอยู่คนเดียว บางทีผมก็แกล้งพูดผิดๆ ให้เค้าแก้ ก็ขำกันไป
- เลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัย: เด็กเล็กมากๆ อาจจะเหมาะกับเพลงสนุกๆ ภาพการ์ตูนสีสดใส พอโตขึ้นมาหน่อยก็อาจจะเริ่มเป็นนิทาน หรือการสอนคำศัพท์ที่ซับซ้อนขึ้น
- ระวังเรื่องโฆษณา: บางช่องโฆษณาเยอะมาก หรือมีโฆษณาที่ไม่เหมาะสมกับเด็กโผล่มา เราก็ต้องคอยดู คอยกดข้ามให้ครับ หรือถ้าเป็นไปได้ก็ใช้ YouTube Premium ไปเลยก็ตัดปัญหาตรงนี้ได้
ผมว่าการให้ลูกเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากยูทูบมันก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีนะครับ ไม่ต้องเสียเงินเยอะ แถมยังสนุกด้วย แต่ก็ต้องเลือกช่องดีๆ และเราเองก็ต้องใส่ใจ ดูแลควบคู่กันไปด้วย ถ้าอยากจะเสริมแบบมีโครงสร้างมากขึ้น ผมว่าพวกคอร์สออนไลน์อย่างของ 51Talk ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีในระดับต่อไปครับ แต่สำหรับช่วงเริ่มต้น ช่องฟรีๆ บนยูทูบก็มีประโยชน์มากๆ เลยครับ
บางทีถ้าเราอยากให้ลูกได้ฝึกพูดกับคนจริงๆ การเรียนกับคุณครูในแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะการมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงก็ช่วยเรื่องการออกเสียงและความมั่นใจได้เยอะเลยครับ ผมเคยเห็นเพื่อนๆ หลายคนให้ลูกเรียนกับ 51Talk ก็เห็นว่าได้ผลดีเหมือนกันนะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของแต่ละบ้านด้วยครับ
ช่วงแรกๆ ที่ลูกยังไม่คุ้น อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยครับ อย่าเพิ่งท้อใจ ลองเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอช่องที่ “ใช่” สำหรับลูกเราจริงๆ อย่างบ้านผมก็เปลี่ยนมาหลายช่องเหมือนกันครับกว่าจะลงตัว บางช่องเพื่อนแนะนำมาว่าดีมาก แต่ลูกเราอาจจะไม่ชอบก็ได้ ต้องสังเกตลูกเราเป็นหลักครับ พวกแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็มีทดลองเรียนฟรีให้ลองดูก่อนได้ เผื่อใครสนใจ
สรุปส่งท้าย
ก็ประมาณนี้ครับ ประสบการณ์ที่อยากเอามาเล่าสู่กันฟัง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังมองหาช่องยูทูบสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ นะครับ ลองไปค้นหาดูครับ อาจจะเจอช่องที่ถูกใจลูกเราก็ได้ สำคัญที่สุดคือให้เค้ารู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ครับ แล้วทุกอย่างจะตามมาเอง