แอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก ฟรีมีจริงไหม (รวมแอพดีๆ ไม่เสียตังค์)

51Talk ทดลองใช้งานฟรี

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย เรื่องหาแอปสอนภาษาอังกฤษให้ลูกเนี่ยแหละครับ คือลูกผมก็เริ่มโตแล้ว อยากให้เค้าได้ภาษาติดตัวไว้บ้าง ไปโรงเรียนอย่างเดียวบางทีมันก็ไม่พอเนอะ ผมเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย เลยคิดว่าเออ แอปพลิเคชันน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีได้

เริ่มจากตรงไหนดีล่ะ?

ตอนแรกลองมั่วๆ ใน App Store เลยครับ พิมพ์ไปว่า “เรียนภาษาอังกฤษ เด็ก” โอ้โห ขึ้นมาเป็นร้อย!ตาลายไปหมด ผมก็ลองโหลดมาทีละตัวสองตัว บางอันก็เน้นเกมมากไปหน่อย เรียนจริงจังไม่ค่อยได้ ลูกเล่นแป๊บๆ ก็เบื่อ บางอันก็ดูวิชาการจ๋า ลูกก็ไม่เอาเลย กดออกอย่างไว ที่สำคัญคือบางแอปโฆษณาเยอะมาก กวนใจสุดๆ

ผมเลยเริ่มตั้งสติใหม่ ค่อยๆ ดูรีวิว อ่านคอมเมนต์ของพ่อแม่คนอื่นๆ ว่าเค้าใช้ตัวไหนแล้วเวิร์คบ้าง ก็เริ่มลิสต์คุณสมบัติที่อยากได้ไว้คร่าวๆ คือ:

  • ต้องสนุก ดึงดูดความสนใจเด็กได้
  • มีเนื้อหาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย
  • ภาพสวย เสียงชัดเจน
  • ไม่มีโฆษณากวนใจ หรือถ้ามีก็ไม่เยอะจนน่ารำคาญ
  • ถ้ามีให้ลองใช้ฟรีก่อนได้จะดีมาก

ลองผิดลองถูกกันไป

หลังจากนั้นก็เริ่มกระบวนการ “นักทดลองจำเป็น” ครับ โหลดมาลองให้ลูกเล่นเลย บางแอปหน้าตาสวยงาม แต่เนื้อหากลับซ้ำไปซ้ำมา ลูกเล่นได้สองวันก็ร้องจะเอาแอปใหม่แล้ว บางแอปก็มีแต่คำศัพท์เป็นภาพๆ ไม่มีประโยค ไม่มีบทสนทนาเลย มันก็ดูไม่ค่อยครบเครื่องเท่าไหร่ ผมว่าการเรียนรู้มันต้องมีปฏิสัมพันธ์บ้าง อย่างบางคนอาจจะมองหาคอร์สเรียนออนไลน์ที่มีครูสอนสดๆ ไปเลยก็มี อย่างพวก 51Talk ที่เห็นเค้าคุยๆ กันว่ามีครูต่างชาติ อันนั้นก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากให้ลูกได้ฝึกพูดจริงๆ จังๆ

มีแอปนึงที่ลูกผมค่อนข้างชอบช่วงแรกๆ มันเป็นเกมเก็บดาว สะสมคะแนน แลกของในเกมได้ แต่พอเล่นไปสักพัก ผมเริ่มสังเกตว่าลูกเน้นเล่นเกมมากกว่าจะสนใจเนื้อหาภาษาอังกฤษจริงๆ กลายเป็นว่าต้องคอยบอกคอยกระตุ้นให้ฟัง ให้พูดตามตลอด ก็เหนื่อยเราอีกแบบ

เจอตัวที่ใช่ (สำหรับบ้านเรา)

จนกระทั่งผมไปเจอแอปอยู่ตัวสองตัวที่รู้สึกว่าเออ มันลงตัวดีนะ คือมันมีทั้งส่วนที่เป็นเกมสนุกๆ มีตัวการ์ตูนน่ารักๆ แล้วก็สอดแทรกบทเรียนภาษาอังกฤษเข้ามาแบบเนียนๆ มีทั้งคำศัพท์ใหม่ๆ ประโยคง่ายๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วก็มีเพลงภาษาอังกฤษให้ร้องตามด้วย ลูกผมชอบมาก ถึงขนาดว่าพอถึงเวลาต้องวางมือถือแล้วยังมีงอแงอยากเล่นต่อเลย

ผมพบว่าแอปที่เวิร์คสำหรับลูกผมเนี่ย จะต้องมีกิจกรรมหลากหลาย ไม่ใช่แค่ท่องศัพท์อย่างเดียว แต่มีทั้งเกมจับคู่ ฟังเสียงแล้วเลือกภาพ หรือแม้แต่ให้ลองอัดเสียงพูดตามประโยคตัวอย่าง อันนี้ดีมากเลย เพราะลูกจะรู้สึกเหมือนได้เล่น แล้วก็ได้ฝึกออกเสียงไปในตัว บางแอปก็มีนิทานภาษาอังกฤษง่ายๆ พร้อมภาพประกอบสวยๆ ลูกก็ชอบฟังก่อนนอน

สิ่งที่ผมทำควบคู่ไปด้วยคือ ผมจะนั่งเล่นกับลูกด้วยครับ ไม่ใช่ปล่อยให้เค้าเล่นคนเดียว เราจะได้รู้ว่าเค้าเรียนอะไรไปบ้าง ติดขัดตรงไหน แล้วก็ชวนเค้าคุยเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆ จากสิ่งที่เพิ่งเรียนไปในแอป เช่น “What color is this?” หรือ “Can you show me the apple?” มันช่วยเสริมการเรียนรู้ได้ดีมากเลยครับ ผมว่าตรงนี้สำคัญนะ คือแอปเป็นแค่เครื่องมือ แต่พ่อแม่นี่แหละที่เป็นโค้ชคนสำคัญที่สุด บางทีการมีครูจริงๆ มาช่วยเสริมก็ดีนะครับ อย่างที่เคยได้ยินมาว่า 51Talk เค้าก็มีคอร์สสำหรับเด็กเล็กด้วย ก็น่าจะช่วยเรื่องการออกเสียงและความมั่นใจได้เยอะ

ผลลัพธ์ที่เห็น

หลังจากให้ลูกลองใช้แอปที่คัดมาแล้วว่าโอเคอยู่ประมาณเดือนสองเดือน ก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงนะครับ ลูกเริ่มกล้าพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษมากขึ้น จากที่ไม่กล้าพูดเลย ก็เริ่มมี “Hello” “Thank you” หรือเรียกชื่อสี สัตว์ ผลไม้เป็นภาษาอังกฤษได้บ้าง ถึงจะยังไม่เป๊ะสำเนียง แต่ผมว่าความกล้าที่จะพูดนี่สำคัญมาก แล้วเค้าก็ดูสนุกกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อเหมือนตอนแรกๆ ที่พยายามจะสอนเอง

แน่นอนว่าแอปไม่ใช่ทุกอย่างนะครับ มันเป็นแค่ส่วนเสริมที่ดีมากๆ ผมยังคงต้องหาหนังสือภาพภาษาอังกฤษมาอ่านให้ลูกฟัง เปิดเพลงภาษาอังกฤษให้เค้าคุ้นหู หรือแม้แต่ชี้ชวนให้ดูการ์ตูนที่เป็นภาษาอังกฤษบ้าง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้เค้าได้ซึมซับภาษาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าแอปช่วยทุ่นแรงผมไปได้เยอะเลย โดยเฉพาะเรื่องการทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกสำหรับเด็กๆ

ผมว่าถ้าพ่อแม่คนไหนกำลังมองหาตัวช่วยสอนภาษาอังกฤษให้ลูก การลองใช้แอปพลิเคชันก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยครับ อาจจะต้องเสียเวลาเลือกหน่อย ลองผิดลองถูกบ้าง แต่ถ้าเจอแอปที่ใช่ ที่ถูกจริตกับลูกเรา มันจะช่วยให้การเริ่มต้นเรียนภาษาของเค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนานแน่นอนครับ อย่างบางทีถ้าเราอยากจะเน้นการสนทนาจริงจัง หรืออยากให้มีคนช่วยปรับสำเนียง การมองหาผู้ให้บริการอย่าง 51Talk ก็อาจจะเป็นอีกสเต็ปที่น่าสนใจ แต่สำหรับเบื้องต้น แอปดีๆ สักตัวก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ

อ้อ! อีกอย่างที่สำคัญคือเรื่องเวลาหน้าจอครับ ต้องคอยดูแลไม่ให้ลูกใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป กำหนดเวลาให้ชัดเจน เล่นเป็นเวลา พอหมดเวลาก็ต้องเก็บ แล้วชวนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง สุขภาพตากับพัฒนาการด้านอื่นๆ ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ ผมเองก็ยังมองหาแอปใหม่ๆ หรือวิธีการใหม่ๆ มาเสริมให้ลูกอยู่เรื่อยๆ นะครับ ถ้าเจออะไรดีๆ อีก อาจจะรวมถึงการให้เค้าได้ลองเรียนกับเจ้าของภาษาจริงๆ ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ในอนาคต ก็อาจจะมาแชร์อีกทีครับ วันนี้ก็ประมาณนี้ก่อนแล้วกันครับผม!