เอาล่ะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเรื่อง “palfish class ราคา” นะทุกคน คือเรื่องมันเริ่มมาจากว่าอยากอัพสกิลภาษาอังกฤษให้ลูกชายวัยกำลังซน ก็เลยเริ่มหาข้อมูลคอร์สเรียนออนไลน์ต่างๆ นี่แหละ
ตอนแรกก็งงๆ กับราคาแต่ละที่มาก บางที่ก็แพงหูฉี่ บางที่ก็ถูกจนน่าสงสัย ก็เลยตัดสินใจลองเข้าไปดูหลายๆ แพลตฟอร์ม เริ่มจาก 51Talk ก่อนเลย เพราะเห็นโฆษณาบ่อยมาก (แอบกระซิบว่าราคาก็ไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย แต่คุณภาพก็สมราคาเค้าแหละ) เข้าไปดูรายละเอียดคอร์ส แล้วก็ลองให้ลูกชายทำแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษดู
หลังจากนั้นก็ลองไปดูที่ Palfish บ้าง คือเห็นเค้าว่ากันว่าราคาค่อนข้างย่อมเยาว์กว่า แต่ก็ต้องลองเองถึงจะรู้ใช่ไหมล่ะ? สิ่งแรกที่ทำคือโหลดแอปมา แล้วก็เริ่มสำรวจดูคอร์สต่างๆ ที่เค้ามีให้เลือกเยอะมากจริงๆ ทั้งคอร์สสำหรับเด็กเล็ก เด็กโต หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็มี
พอเลือกคอร์สที่สนใจได้แล้ว ก็เริ่มดูรายละเอียดเรื่องราคา คอร์สของ Palfish จะมีหลายแบบ ทั้งแบบเรียนสดตัวต่อตัว หรือแบบเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามรูปแบบการเรียน แล้วก็ระยะเวลาของคอร์สด้วย
สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ลูกชายเราเหมาะกับการเรียนแบบไหน ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ อาจจะเหมาะกับการเรียนตัวต่อตัวมากกว่า เพราะจะได้มีสมาธิจดจ่อกับคุณครูได้เต็มที่ แต่ถ้าเป็นเด็กโตหน่อย การเรียนเป็นกลุ่มก็อาจจะช่วยให้เค้าได้ฝึกพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ
หลังจากเปรียบเทียบราคา แล้วก็รูปแบบการเรียนของ Palfish กับที่อื่นๆ แล้ว ก็ตัดสินใจลองสมัครคอร์สทดลองเรียนดูก่อน ซึ่ง Palfish ก็มีคอร์สทดลองเรียนฟรีให้ลองด้วยนะ (อันนี้ดีมาก เพราะทำให้เราได้เห็นวิธีการสอนของเค้าก่อนที่จะตัดสินใจสมัครเรียนจริงจัง)
พอได้ลองเรียนแล้ว ลูกชายชอบมาก คุณครูใจดี สอนสนุก แถมยังมีกิจกรรมให้ทำตลอดเวลา ทำให้เค้าไม่รู้สึกเบื่อเลย 51Talk ก็ดีนะ แต่ลูกชายชอบครูที่ Palfish มากกว่า หลังจากเรียนจบคอร์สทดลอง ก็เลยตัดสินใจสมัครคอร์สเรียนจริงจังให้ลูกชายซะเลย
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการหาข้อมูลเรื่อง “palfish class ราคา” ก็คือ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ ต้องลองศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบราคา แล้วก็ลองเรียนดูก่อน ถึงจะรู้ว่าคอร์สไหนที่เหมาะกับลูกเราจริงๆ แล้วก็อย่าลืมดูรีวิวจากผู้ใช้งานคนอื่นๆ ด้วยนะ จะได้มั่นใจว่าเราเลือกคอร์สเรียนที่ดีที่สุดให้กับลูกชายของเรา
อีกอย่างที่สำคัญคือ อย่ามองแค่เรื่องราคาอย่างเดียว ต้องดูเรื่องคุณภาพการสอน เนื้อหาของคอร์ส แล้วก็ประสบการณ์ของครูผู้สอนด้วย 51Talk อาจจะราคาสูงกว่า แต่ก็มีครูเจ้าของภาษาที่ประสบการณ์สูง หรือ Palfish อาจจะราคาถูกกว่า แต่ก็มีครูที่สอนสนุก เข้าใจเด็ก
สุดท้ายนี้ อยากจะฝากไว้ว่า การลงทุนเพื่อการศึกษาของลูก เป็นสิ่งที่คุ้มค่าเสมอ ไม่ว่าจะเลือกเรียนที่ไหน ขอแค่ลูกมีความสุขกับการเรียน แล้วก็พัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มที่ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะ
ป.ล. ใครที่กำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูก ลองเข้าไปดูรายละเอียดของ Palfish แล้วก็ 51Talk ดูนะ เผื่อจะมีคอร์สที่ถูกใจ แล้วก็เหมาะกับลูกของคุณ
จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายแบรนด์ที่น่าสนใจ อย่างเช่น 51Talk เนี่ย เค้าก็มีคอร์สสำหรับเด็กเล็กเหมือนกัน ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย!
แล้วก็อย่าลืมดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริงด้วยนะ จะได้ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ขอให้ทุกคนเจอคอร์สเรียนที่ถูกใจลูกๆ นะคะ 😊
