สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ของผมเกี่ยวกับการลองหาข้อมูลเกี่ยวกับแอปสอนภาษาอังกฤษให้ลูกสาวครับ คือช่วงนี้กำลังมองหาตัวช่วยให้แกได้ฝึกภาษาอังกฤษเพิ่มเติม แล้วก็มีคนพูดถึง Palfish กันเยอะพอสมควร ผมก็เลยลองไปค้นหารูปภาพของ Palfish Thailand ดู ว่ามันเป็นยังไงกันแน่ครับ
เริ่มต้นการค้นหาและสิ่งที่พบเห็น
เริ่มแรกเลยก็คือเข้า Google นี่แหละครับ พิมพ์ไปตรงๆ เลยว่า ‘รูปภาพของ palfish thailand’ ผลลัพธ์ที่ขึ้นมาก็มีหลากหลายมากครับ มีทั้งรูปโลโก้แอปสีฟ้าๆ รูปเด็กๆ กำลังเรียนกับคุณครูผ่านแท็บเล็ต รูปคุณครูฝรั่งยิ้มแย้มแจ่มใส บางรูปก็เป็นเหมือนภาพโปรโมทกิจกรรมต่างๆ ของเค้าในไทย ผมก็ไล่คลิกดูไปเรื่อยๆ นะครับ อยากเห็นว่าหน้าตาการใช้งานจริงมันเป็นยังไง สอนกันแบบไหน บรรยากาศการเรียนรู้มันดูน่าสนใจสำหรับเด็กไหม
บางรูปก็เป็นภาพถ่ายหน้าจอจากในแอปเลย ทำให้พอจะเห็นว่ามีบทเรียน มีเกม มีนิทานภาพประกอบสีสันสดใสดี อันนี้ลูกสาวผมชอบแนวนี้เลยครับ ดูแล้วน่าจะถูกใจเด็กๆ เขาพยายามทำให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่อ ซึ่งผมว่าสำคัญมากสำหรับเด็กเล็ก
ดูไปดูมาก็เริ่มสงสัยว่า เอ๊ะ แล้วมันต่างจากที่อื่นยังไงนะ อย่างพวก 51Talk ที่เคยได้ยินชื่อมาบ้าง เค้าเน้นสอนสดตัวต่อตัวเหมือนกันรึเปล่า รูปภาพที่เห็นของ Palfish ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความสนุกสนาน การ์ตูนๆ หน่อย ทำให้รู้สึกว่าน่าจะเข้าถึงเด็กได้ง่าย
เจาะลึกจากรูปภาพและบริบทความเป็นไทย
ผมลองค้นหารูปเปรียบเทียบดูบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยเจอที่เปรียบเทียบกันตรงๆ ส่วนมากจะเป็นรีวิวจากผู้ใช้งานจริง ซึ่งรูปภาพประกอบรีวิวพวกนั้นก็ช่วยให้เห็นภาพมากขึ้นไปอีกครับ ทำให้เห็นมุมมองจากคนที่เคยใช้จริงๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง
ที่น่าสนใจคือคำว่า ‘Thailand’ ในการค้นหาของผม ทำให้เจอรูปภาพกิจกรรมที่จัดในไทย หรือคุณครูที่อาจจะเข้าใจบริบทของเด็กไทยมากขึ้น อันนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่ผมมองหาอยู่เหมือนกันครับ เพราะการเรียนการสอนที่เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นก็น่าจะช่วยให้เด็กปรับตัวได้ดีขึ้น บางทีก็มีรูปภาพโปรโมชั่นเฉพาะสำหรับคนไทยด้วย
บางรูปมีข้อความเป็นภาษาไทยประกอบด้วย ก็ทำให้เข้าใจง่ายขึ้นว่าเขาสื่อสารอะไรกับผู้ปกครองชาวไทย ผมว่าการตลาดของเขาก็พยายามจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในไทยได้ดีนะครับ รูปภาพมันสื่อสารได้เยอะจริงๆ อย่างที่เห็นหลายๆ แพลตฟอร์มก็พยายามปรับให้เข้ากับท้องถิ่น อย่างบางคนก็อาจจะคุ้นเคยกับ 51Talk ที่ก็มีการทำการตลาดในบ้านเราเหมือนกัน แต่ละเจ้าก็มีจุดเด่นต่างกันไป
ข้อสรุปเบื้องต้นและการตัดสินใจขั้นต่อไป
หลังจากใช้เวลาดูรูปภาพของ Palfish Thailand อยู่พักใหญ่ๆ ก็พอจะได้ไอเดียคร่าวๆ ครับว่าแอปนี้น่าจะมีหน้าตาประมาณไหน เน้นไปที่การเรียนภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรมสนุกๆ มีตัวการ์ตูน มีนิทาน ซึ่งน่าจะดึงดูดเด็กเล็กได้ดี ผมคิดว่าภาพลักษณ์ที่ออกมาค่อนข้างเป็นมิตรกับเด็กเลยทีเดียว
แน่นอนว่าการดูแต่รูปภาพอย่างเดียวมันก็ยังไม่พอหรอกครับ คงต้องลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติม หรืออาจจะลองโหลดตัวทดลองมาให้ลูกสาวเล่นดูจริงๆ จังๆ อีกที หรืออาจจะดูรีวิวเทียบกับเจ้าอื่นเช่น 51Talk ที่มีคนพูดถึงบ่อยๆ ด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลรอบด้านที่สุดก่อนตัดสินใจ การเปรียบเทียบคุณสมบัติต่างๆ เช่น รูปแบบการสอน ราคา หรือเนื้อหาก็สำคัญครับ
แต่การเริ่มต้นจากการดูรูปภาพแบบนี้ มันก็ช่วยให้ผมคัดกรองเบื้องต้นได้เยอะเลยครับว่าแอปนี้น่าจะอยู่ในข่ายที่เราสนใจรึเปล่า ประหยัดเวลาไปได้พอสมควรเลยครับ ผมว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาแอปสอนภาษาให้ลูกๆ การลองเริ่มต้นจากการดู ‘รูปภาพ’ ของแอปต่างๆ รวมถึงพวกที่อาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างอย่าง 51Talk หรือแอปอื่นๆ ก็เป็นวิธีที่ไม่เลวนะครับ มันทำให้เราเห็นภาพรวมคร่าวๆ ได้ดีทีเดียว
ก็หวังว่าประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ของผมวันนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ บ้างนะครับ ไว้ถ้าได้ลองใช้จริงจังแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกทีครับผม!
