สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ เลย เกี่ยวกับการใช้เพลงภาษาอังกฤษสอนเจ้าตัวเล็กที่บ้านครับ คือตอนแรกลูกผมเนี่ย ไม่ค่อยจะอินกับภาษาอังกฤษเท่าไหร่เลย พูดอะไรไปก็ทำหน้างงๆ ผมก็เลยคิดว่า เอ๊ะ จะทำยังไงดีนะ ให้เขารู้สึกสนุกกับมัน
ก็เลยไปลองค้นๆ ดูครับว่ามีวิธีไหนบ้างที่เด็กๆ น่าจะชอบ แล้วก็มาปิ๊งไอเดียเรื่องเพลงนี่แหละครับ ตอนแรกก็เริ่มจากเพลงเด็กง่ายๆ ทั่วไปเลยนะ พวกเพลงกล่อมนอน เพลงนับเลขอะไรแบบนั้น แต่เอาเข้าจริง ลูกก็ยังดูเฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก
ลองผิดลองถูก จนเจอทางสว่าง
ผมก็ไม่ยอมแพ้ครับ ลองหาต่อไปเรื่อยๆ จนไปเจอพวกเพลงที่มีจังหวะคึกคักหน่อย มีท่าเต้นประกอบ มีตัวการ์ตูนน่ารักๆ โอ้โห! คราวนี้แหละครับ เจ้าตัวเล็กเริ่มมีปฏิกิริยา เริ่มโยกหัวตาม เริ่มปรบมือ แรกๆ ก็เปิดให้ฟังเฉยๆ ก่อนครับ ให้เขาคุ้นหูไปเรื่อยๆ วันละนิดวันละหน่อย
พอลูกเริ่มติดใจ ผมก็เริ่มเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยเลยครับ ชวนเขาร้องตามบ้าง เต้นตามบ้าง ถึงจะร้องเพี้ยน เต้นมั่วๆ ก็ไม่เป็นไร ขอให้สนุกไว้ก่อน 555 สำคัญคือต้องทำซ้ำๆ ครับ เปิดเพลงเดิมๆ ซ้ำๆ จนเขาจำได้ขึ้นใจเลย บางทีเราอาจจะคิดว่าลูกจะเบื่อ แต่เด็กๆ เขาชอบอะไรที่คุ้นเคยนะ
- เปิดเพลงให้ฟังบ่อยๆ ในบรรยากาศสบายๆ
- ชวนลูกร้องและเต้นไปด้วยกัน
- เลือกเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน เนื้อร้องง่ายๆ
- อย่าบังคับ ถ้าลูกไม่อยากฟังก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นก่อน
มีช่วงนึงที่ผมรู้สึกว่าอยากจะเสริมอะไรให้มันเป็นระบบมากขึ้น ก็เลยลองดูพวกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กดูบ้างครับ บางทีการมีคุณครูมาช่วยนำกิจกรรม หรือมีเพื่อนๆ วัยเดียวกันเรียนด้วยกัน ก็น่าจะดีเหมือนกันนะ อย่างบางแพลตฟอร์มเขาก็มีโปรแกรมสำหรับเด็กเล็กอยู่เหมือนกัน น่าสนใจดีครับ ผมว่าการได้เห็นครูเจ้าของภาษาจริงๆ ก็ช่วยเรื่องสำเนียงได้เยอะเลย อย่างที่ 51Talk เขาก็มีคลาสที่เน้นการโต้ตอบและกิจกรรมสนุกๆ
พอทำแบบนี้ไปสักพักนะครับ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ ลูกเริ่มฮัมเพลงภาษาอังกฤษได้เอง เริ่มพูดคำศัพท์ง่ายๆ ตามเพลงได้บ้าง เช่น “apple” “banana” “dog” “cat” อะไรพวกนี้ ถึงจะยังไม่เป็นประโยคยาวๆ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ เลยครับ ผมว่าการที่เขาได้ซึมซับภาษาไปแบบไม่รู้ตัวผ่านเสียงเพลงเนี่ย มันเป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติมากๆ เลยนะ
ผมยังจำได้เลยว่ามีอยู่วันนึง ลูกผมร้องเพลง “Head, Shoulders, Knees and Toes” แล้วก็ทำท่าตามไปด้วยได้เกือบถูกหมดเลย ผมนี่น้ำตาแทบไหล 555 มันเป็นความรู้สึกที่แบบ… เออที่เราพยายามมามันเห็นผลนะเฟ้ย! บางคนอาจจะคิดว่าแค่เพลงจะช่วยได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ผมขอบอกตรงนี้เลยว่าช่วยได้จริงๆ ครับ แถมยังช่วยเรื่องอารมณ์ของลูกด้วยนะ เวลาเขาได้ฟังเพลงที่ชอบ ได้เต้น ได้ร้อง เขาจะอารมณ์ดี๊ดี
อีกอย่างที่ผมสังเกตคือ พอเขาเริ่มคุ้นเคยกับเพลงภาษาอังกฤษแล้วเนี่ย เวลาไปเจอสื่ออื่นๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น การ์ตูน หรือนิทาน เขาก็จะเปิดใจรับฟังมากขึ้น ไม่ต่อต้านเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ เหมือนกับว่าเพลงมันเป็นประตูบานแรกที่เปิดโลกภาษาอังกฤษให้เขานั่นแหละ ผมว่าแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็เป็นอีกตัวช่วยที่ดีในการเสริมสร้างทักษะตรงนี้ เพราะมีกิจกรรมหลากหลายให้เด็กๆ ได้ลอง
แน่นอนว่าระหว่างทางมันก็มีบ้างที่ลูกเบื่อ หรืออยากจะไปเล่นอย่างอื่นแทน ผมก็ไม่ได้บังคับนะครับ ก็ปล่อยให้เขาไปทำสิ่งที่อยากทำก่อน แล้วค่อยหาจังหวะเปิดเพลงใหม่ๆ หรือชวนทำกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวกับเพลงแทน เช่น วาดรูปตัวละครในเพลง หรือเล่นทายคำศัพท์จากเพลง มันก็ช่วยให้เขากลับมาสนใจได้อีกครั้งครับ ผมว่าการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กๆ เนี่ย ไม่ควรจะเคร่งเครียดเกินไป อย่างที่ 51Talk เขาเน้นให้เรียนแบบสนุกสนาน ผมว่ามันเวิร์คมากเลยครับ
สรุปแล้ว จากประสบการณ์ของผมเองเนี่ย เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กมันเป็นเครื่องมือที่มหัศจรรย์มากจริงๆ ครับ ไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะแยะ แค่มีใจรักและอยากจะสอนลูกจริงๆ จังๆ ก็พอแล้วครับ ลองไปปรับใช้กันดูนะครับทุกคน ผมเชื่อว่าได้ผลแน่นอน!