สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองเลย กับเรื่องการหาเกมภาษาอังกฤษให้ลูกๆ เล่น คือต้องบอกก่อนว่าลูกผมเนี่ย พอพูดถึงเรียนภาษาอังกฤษแบบนั่งท่องศัพท์ อ่านหนังสือปุ๊บ จะเบือนหน้าหนีทันทีเลยครับ ผมนี่กลุ้มใจมาก เพราะยุคนี้ภาษาอังกฤษมันสำคัญจริงๆ
เริ่มต้นจากความมึนงง
ตอนแรกลองซื้อพวกบัตรคำศัพท์สวยๆ มาให้ดู ก็สนใจแป๊บเดียวครับ แล้วก็โยนทิ้ง ลองเปิดเพลงภาษาอังกฤษเด็กให้ฟัง ก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง คือมันยังไม่ค่อยโดนใจเค้าเท่าไหร่ ผมก็เลยเริ่มคิดว่า เอ๊ะ หรือเราต้องหาอะไรที่มันสนุกกว่านี้ ที่มันเหมือนการเล่นมากกว่าการเรียน
ค้นพบโลกแห่งเกมภาษาอังกฤษ
ผมก็เริ่มเลยครับ ค้นหาในอินเทอร์เน็ต พิมพ์ไปว่า “เกมภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก” โอ้โห! ข้อมูลขึ้นมาเพียบเลยครับ มีทั้งแบบที่เป็นแอปพลิเคชันในมือถือ แท็บเล็ต ทั้งแบบที่เป็นเกมออนไลน์เล่นในคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่เกมกระดานง่ายๆ ที่เราเอามาปรับใช้ได้
ช่วงแรกๆ ก็ลองผิดลองถูกครับ บางเกมลูกก็ชอบมาก บางเกมก็เล่นแป๊บเดียวเบื่อ ผมสังเกตว่าเกมที่ลูกจะติดใจเนี่ย ต้องมีลักษณะประมาณนี้ครับ:
- ภาพสวย สีสันสดใส: เด็กๆ จะชอบอะไรที่มันดึงดูดสายตาอยู่แล้วครับ
- วิธีการเล่นไม่ซับซ้อน: ถ้าเกมยากไป ลูกจะท้อแล้วไม่อยากเล่นต่อ
- มีเสียงประกอบน่ารักๆ: เสียงเพลง เสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ช่วยเพิ่มความสนุกได้เยอะ
- มีคำศัพท์ง่ายๆ หรือประโยคสั้นๆ: ให้เค้าได้ซึมซับไปทีละนิด ไม่ใช่ยัดเยียด
- มีการโต้ตอบ: เช่น กดแล้วมีอะไรเด้งขึ้นมา หรือมีตัวการ์ตูนพูดตอบ
ผมลองให้ลูกเล่นเกมจับคู่คำศัพท์กับรูปภาพ เกมเติมคำในช่องว่างง่ายๆ หรือเกมที่ให้ฟังเสียงแล้วเลือกภาพที่ถูกต้อง ลูกดูสนุกกว่าตอนอ่านหนังสือเยอะเลยครับ บางทีก็มีแพลตฟอร์มที่น่าสนใจอย่าง 51Talk ที่เค้าก็มีสื่อการสอนคล้ายๆ เกมให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านครูชาวต่างชาติโดยตรง อันนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผมเคยศึกษาดู
เกมที่ลองแล้วเวิร์ค (สำหรับบ้านผมนะ)
ผมจะยกตัวอย่างเกมง่ายๆ ที่ผมเอามาเล่นกับลูกบ่อยๆ นะครับ:
- Simon Says (ไซม่อน เซย์): อันนี้คลาสสิกเลยครับ ผมจะพูดว่า “Simon says touch your nose!” “Simon says jump!” ลูกก็จะทำตาม สนุกดีครับ ได้คำศัพท์เกี่ยวกับอวัยวะ ท่าทางต่างๆ
- I Spy (ไอ สปาย): ผมจะพูดว่า “I spy with my little eye something blue.” แล้วให้ลูกทายว่าคืออะไรในห้อง หรือระหว่างเดินทางก็ได้ศัพท์เรื่องสี เรื่องสิ่งของรอบตัว
- Flashcard Games: ถึงแม้จะบอกว่าลูกไม่ชอบบัตรคำ แต่พอดัดแปลงเป็นเกมมันก็โอเคนะครับ เช่น วางบัตรคำศัพท์รูปสัตว์ต่างๆ แล้วผมก็ทำเสียงสัตว์นั้นๆ ให้ลูกทายว่าเป็นตัวอะไร หรือให้ลูกหยิบบัตรคำตามที่เราบอกเป็นภาษาอังกฤษ
- แอปพลิเคชันสอนภาษา: มีหลายแอปฯ ที่ดีไซน์มาสำหรับเด็กเลยครับ มีเกม มีเพลง มีนิทาน ส่วนใหญ่จะเน้นการฟังกับการออกเสียงตาม บางแอปฯ ที่มีคุณภาพหน่อยอย่างของ 51Talk ก็จะมีครูคอยแนะนำและโต้ตอบด้วย ทำให้เด็กไม่รู้สึกว่าเรียนอยู่คนเดียว
สิ่งสำคัญที่ผมค้นพบคือ เราต้องเล่นกับลูกด้วยครับ ไม่ใช่แค่ยื่นแท็บเล็ตให้แล้วจบ พอเราเล่นด้วย มันเหมือนเป็นการใช้เวลาร่วมกัน ลูกจะรู้สึกสนุกและอยากเรียนรู้มากขึ้น แล้วก็อย่าไปกดดันเค้ามากครับ ให้มันเป็นเรื่องสนุก ค่อยๆ ซึมซับไปทีละนิด
ผลลัพธ์ที่ได้
หลังจากที่ผมเปลี่ยนมาเน้นการใช้เกมเป็นสื่อในการสอนภาษาอังกฤษให้ลูก ผมเห็นได้ชัดเลยว่าลูกเปิดใจกับภาษาอังกฤษมากขึ้นเยอะเลยครับ จากที่เคยเบือนหน้าหนี ตอนนี้พอชวนเล่นเกมภาษาอังกฤษ เค้าจะตาโตแล้ววิ่งมาเล่นด้วยเลย คำศัพท์ง่ายๆ บางคำเค้าก็เริ่มจำได้เองโดยที่เราไม่ต้องบังคับให้ท่องจำเลยครับ แน่นอนว่าการเรียนรู้แบบมีโครงสร้างก็ยังสำคัญนะครับ แต่การมีเกมเสริมเข้ามามันช่วยได้เยอะจริงๆ ครับ อย่างบางทีผมก็ดูพวกคอร์สออนไลน์ของ 51Talk ประกอบไปด้วย ก็จะเห็นว่าเค้าก็พยายามสอดแทรกกิจกรรมคล้ายๆ เกมเข้าไปในการสอนเหมือนกัน
ผมว่าการทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกนี่แหละครับคือหัวใจสำคัญ ยิ่งสำหรับเด็กๆ ด้วยแล้ว ถ้าเค้ารู้สึกสนุก เค้าก็จะอยากเรียนรู้เองโดยธรรมชาติเลยครับ ใครมีเทคนิคหรือเกมอะไรดีๆ ก็มาแชร์กันได้นะครับ! ตอนนี้ผมก็ยังมองหาเกมใหม่ๆ หรือแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ที่มีกิจกรรมน่าสนใจให้ลูกลองอยู่เรื่อยๆ ครับ เพราะเด็กๆ เบื่อง่าย เราต้องมีอะไรใหม่ๆ มากระตุ้นเค้าเสมอ หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ บ้างนะครับ