สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ของผมเลยครับ เรื่องการให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์นี่แหละครับ คือเรื่องมันเริ่มจากลูกผมเนี่ยแหละครับ พอเริ่มเข้าโรงเรียน ก็อยากให้เขาได้ภาษาอังกฤษติดตัวไว้บ้าง สมัยนี้มันจำเป็นจริงๆ นะครับ
จุดเริ่มต้นและความทุลักทุเล
ตอนแรกเลยนะครับ ผมก็คิดจะส่งลูกไปเรียนพิเศษตามสถาบันต่างๆ แถวบ้าน แต่เชื่อมั้ยครับว่ามันไม่ง่ายเลย ไหนจะเรื่องตารางเรียนที่ไม่ค่อยลงตัวกับเวลาเลิกงานของผม ไหนจะต้องฝ่ารถติดไปรับไปส่งอีก เหนื่อยทั้งพ่อทั้งลูกเลยครับ บางทีลูกกลับมาก็ดูเหนื่อยๆ ไม่ค่อยอยากทำการบ้านต่อแล้ว ผมก็เลยเริ่มคิดว่า เอ๊ะ มันมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไหมนะ
ค้นพบการเรียนออนไลน์
ผมก็เริ่มเลยครับ นั่งหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตนี่แหละครับ เสิร์ชไปเรื่อยๆ จนไปเจอว่าเดี๋ยวนี้เขามีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์สำหรับเด็กเยอะแยะเลย ตอนแรกก็ลังเลนะครับ มันจะได้ผลจริงเหรอ? ลูกเราจะนั่งเรียนหน้าจอได้นานแค่ไหน? แต่พอคิดถึงความสะดวกสบายที่ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเสียเวลารถติด ก็เลยตัดสินใจว่า เอาวะ ลองดูสักตั้ง!
ผมเริ่มจากการดูรีวิวของผู้ปกครองคนอื่นๆ ครับ ว่าแต่ละที่เขาสอนกันยังไง มีหลักสูตรแบบไหนที่เหมาะกับเด็กเล็กๆ บ้าง ก็มีหลายเจ้าที่น่าสนใจนะครับ บางที่ก็เน้นแกรมม่า บางที่ก็เน้นการสนทนา ตอนนั้นก็มีดูๆ พวก 51Talk ไว้บ้างเหมือนกัน เพราะเห็นมีคนพูดถึงอยู่พอสมควรว่าเขามีครูต่างชาติเยอะดี
ขั้นตอนการลองผิดลองถูก
ผมตัดสินใจเริ่มจากลองหาคอร์สทดลองเรียนฟรีก่อนครับ หลายๆ ที่เขาก็มีให้ลองนะ ผมว่าดีเลย จะได้รู้ว่าลูกเราชอบไหม ครูสอนเป็นยังไงบ้าง ลูกคนแรกของผมนี่ แรกๆ ก็จะเขินๆ หน่อยครับ ไม่ค่อยกล้าพูดกับครูที่เป็นชาวต่างชาติ ผมก็ต้องนั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ คอยกระตุ้นให้เขาตอบ
- หาข้อมูล: อันนี้สำคัญมากครับ ดูหลายๆ ที่เปรียบเทียบกัน ทั้งราคา หลักสูตร รีวิวจากผู้ใช้งานจริง
- ทดลองเรียน: ถ้ามีให้ทดลองเรียนฟรี ต้องลองเลยครับ จะได้เห็นภาพรวมจริงๆ
- สังเกตลูก: ดูว่าลูกสนุกกับการเรียนไหม ครูเข้ากับลูกเราได้หรือเปล่า
หลังจากลองไปสองสามที่ ก็เริ่มเห็นแนวทางครับว่าลูกผมน่าจะชอบเรียนแบบมีกิจกรรม มีเพลง มีเกมส์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แบบนั่งฟังเลคเชอร์อย่างเดียว ซึ่งแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สมัยนี้เขาก็ทำออกมาได้ดีนะครับ มีสื่อการสอนที่ดึงดูดเด็กๆ ได้เยอะเลย อย่างพวก 51Talk นี่เขาก็มีบทเรียนที่เป็นภาพการ์ตูนสีสันสดใส ทำให้เด็กไม่เบื่อ
สิ่งที่ค้นพบและผลลัพธ์
พอเลือกที่เรียนที่คิดว่าใช่แล้ว (ซึ่งผมก็ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นที่ไหนที่หนึ่งตายตัวนะครับ แล้วแต่ความชอบของแต่ละบ้านเลย) ก็เริ่มให้ลูกเรียนอย่างสม่ำเสมอครับ แรกๆ ก็อาจจะต้องคอยกำกับดูแลบ้าง แต่พอเขาเริ่มคุ้นเคย เริ่มสนุกกับการได้คุยกับคุณครูต่างชาติแล้ว ทีนี้สบายเลยครับ เขาจะรอถึงเวลาเรียนเองเลย
สิ่งที่ผมเห็นว่ามันดีมากๆ เลยคือเรื่องสำเนียงครับ การที่ลูกได้ฟัง ได้พูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรงมันช่วยเรื่องนี้ได้เยอะจริงๆ แล้วก็ความกล้าแสดงออกด้วยครับ จากที่ไม่ค่อยกล้าพูด ตอนนี้ก็เริ่มกล้าที่จะตอบโต้ กล้าที่จะถามมากขึ้น แม้จะยังเป็นคำง่ายๆ หรือประโยคสั้นๆ ก็ตาม ผมก็มองว่านี่เป็นพัฒนาการที่ดีนะ อย่างน้อยเขาก็ไม่กลัวภาษาอังกฤษแล้ว
ผมว่าแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk หรือเจ้าอื่นๆ ที่เน้นการสอนเด็กเล็กโดยเฉพาะเนี่ย เขาก็จะเข้าใจธรรมชาติของเด็กดีครับ ว่าต้องมีลูกเล่น มีการกระตุ้นยังไงให้เด็กสนใจอยู่ตลอดเวลา บางทีเราอาจจะต้องลองเปลี่ยนครูดูบ้าง ถ้าลูกยังไม่คลิกกับคนเดิม ซึ่งบางที่เขาก็มีครูให้เลือกเยอะครับ
สุดท้ายแล้วนะครับ จากประสบการณ์ของผม ไม่ว่าจะเลือกเรียนที่ไหนก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอครับ ให้ลูกได้เรียน ได้เจอภาษาบ่อยๆ อาจจะไม่ต้องทุกวันก็ได้ แต่ขอให้มีตารางที่แน่นอน แล้วก็อย่าไปกดดันลูกมากครับ ให้เขาเรียนอย่างสนุกสนาน เดี๋ยวเขาก็จะซึมซับไปเองครับ ทุกวันนี้ลูกผมก็ยังเรียนออนไลน์อยู่ครับ และดูเขาก็มีความสุขดีกับการเรียนภาษาอังกฤษนะ แม้ว่าบางทีจะมีงอแงบ้างตามประสาเด็ก แต่โดยรวมถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดเลยครับที่เลือกให้เขาเรียนออนไลน์ ดีกว่าต้องไปเหนื่อยรถติดข้างนอกเยอะเลยครับ ถ้าใครกำลังมองหาทางเลือกให้ลูก ผมว่าลองพิจารณาการเรียนออนไลน์ดูนะครับ อาจจะเป็น 51Talk หรือที่อื่นๆ ก็ลองศึกษาดูครับผม