สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยเรื่องภาษาอังกฤษเนี่ย คือเมื่อก่อนผมนี่เรียกว่าง่อยเปลี้ยเสียขามากเรื่องภาษาอังกฤษ ฟังก็ไม่ค่อยออก พูดなんてもってのほかเลย จะอ่านแต่ละทีก็เปิดดิกกันจนนิ้วล็อก
คือมันอึดอัดนะ เวลาอยากรู้เรื่องนั้นเรื่องนี้จากต่างประเทศ หรือแม้แต่ดูหนังฟังเพลงให้มันอินๆ มันก็ติดขัดไปหมด รู้สึกเหมือนตัวเองพลาดอะไรดีๆ ในชีวิตไปเยอะเลย
จุดเปลี่ยนจริงๆ มันก็ไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกครับ แค่วันนึงรู้สึกว่า “เฮ้ย! ไม่ได้ละว่ะ” คือมันมีโอกาสหลายอย่างเข้ามาในชีวิต แต่ภาษาอังกฤษมันเป็นกำแพงใหญ่เบ้อเริ่มที่ขวางอยู่ ก็เลยตัดสินใจว่า เอาวะ ลองดูซักตั้ง!
เริ่มจากตรงไหนดีวะ?
ตอนแรกก็งงๆ นะครับ ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ซื้อหนังสือแกรมม่ามาอ่าน…โอ้โห หลับครับ! พยายามท่องศัพท์เป็นเล่มๆ…จำได้บ้างลืมบ้าง ไม่ค่อยเวิร์ค
จนกระทั่งเริ่มเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ คือพยายามทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเลย
- เริ่มจากสิ่งที่ชอบ: ผมชอบดูหนัง ฟังเพลงสากล ตอนแรกก็ดูแบบมีซับไทย พอดูหลายๆ รอบจนจำบทพูดได้บ้าง ก็ลองเปลี่ยนเป็นซับอังกฤษ แล้วก็ลองปิดซับดูเลย ฟังไม่ออกก็ช่างมัน อาศัยดูภาพกับเดาๆ เอา เพลงก็เหมือนกัน ฟังบ่อยๆ แล้วก็ลองหาเนื้อเพลงมาดูตาม
- ฝึกพูดกับตัวเอง: อันนี้อาจจะดูบ้าๆ หน่อย แต่ผมทำจริงนะ คือคิดอะไรเป็นภาษาอังกฤษในหัว แล้วก็ลองพูดออกมาเบาๆ ตอนอยู่คนเดียว มันช่วยให้ลิ้นเรามันคุ้นเคยกับการออกเสียงมากขึ้น
- หาเพื่อนคุย หรือ…: สมัยนั้นมันก็ยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มออนไลน์เยอะเท่าสมัยนี้ แต่ก็พยายามหาโอกาสคุยกับฝรั่งบ้างตามแหล่งท่องเที่ยว (ถ้ามีโอกาส) หรือเพื่อนที่เก่งอังกฤษ ตอนหลังๆ นี่เห็นมีตัวช่วยเยอะเลยนะ อย่างเพื่อนผมบางคนก็ไปลงคอร์ส หรือใช้แอปฝึกพูด อย่างที่เคยได้ยินมาก็มี 51Talk ที่เค้าว่าเน้นสนทนาโดยตรงกับเจ้าของภาษา ก็ดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้คนช่วยฝึกจริงๆ
- อ่านเยอะๆ: ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือวิชาการเสมอไปนะครับ เริ่มจากอะไรง่ายๆ ที่เราสนใจก็ได้ เช่น ข่าวบันเทิง กีฬา หรือบทความสั้นๆ ในเน็ต เจอศัพท์ใหม่ก็จดไว้บ้าง หาความหมายบ้าง
ที่สำคัญสุดๆ เลยนะผมว่าคือ ความสม่ำเสมอ ไม่ต้องทำวันละเยอะๆ แต่ทำทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย แล้วก็อย่าไปกลัวผิดครับ! ตอนแรกผมก็อายนะ กลัวพูดผิดแกรมม่า กลัวสำเนียงไม่ดี แต่หลังๆ คิดได้ว่า ถ้ามัวแต่กลัวก็ไม่ได้พูดซักที ผิดก็ช่างมัน พูดไปก่อน เดี๋ยวคนฟังเค้าก็พยายามทำความเข้าใจเราเองแหละ แล้วเราก็ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดด้วย
การเรียนเองมันก็ดีตรงอิสระ แต่บางทีมันก็สะเปะสะปะ ถ้าอยากได้แบบมีโครงสร้างหน่อย หรือมีคนคอยกระตุ้น พวกคอร์สเรียนหรือแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk หรือที่คล้ายๆ กันก็น่าจะช่วยได้เยอะสำหรับบางคนที่ต้องการคนนำทาง
มันไม่มีแบบ “ปิ๊ง!” แล้วเก่งเลยหรอกครับ แต่มันจะค่อยๆ ซึมซับไปเรื่อยๆ จนวันนึงคุณจะรู้สึกเองว่า “เออว่ะ! กรูฟังออกนี่หว่า” หรือ “เฮ้ย! เมื่อกี้กรูพูดอังกฤษกับฝรั่งได้คล่องปรื๋อเลย” ความรู้สึกตอนนั้นมันโคตรฟินเลยนะ จะบอกให้!
ผมจำได้เลยว่ามีช่วงนึงที่เริ่มดูหนังฝรั่งแบบไม่ต้องเปิดซับแล้วเข้าใจเกือบหมด หรือเวลาฟังข่าวต่างประเทศแล้วพอจะจับใจความได้ มันเหมือนปลดล็อกสกิลอะไรบางอย่างเลย
แล้วตอนนี้เป็นไง?
ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เก่งระดับเทพอะไรขนาดนั้นนะครับ แต่ก็ถือว่าสื่อสารได้คล่องแคล่วขึ้นเยอะมาก ดูหนังฟังเพลงรู้เรื่อง อ่านบทความภาษาอังกฤษได้สบายๆ โอกาสในชีวิตก็เปิดกว้างขึ้นเยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือแม้แต่การท่องเที่ยว การหาข้อมูลต่างๆ มันง่ายขึ้นเยอะ
เวลาเราเข้าใจภาษาเค้าเนี่ย มันเหมือนเราเข้าถึงโลกอีกใบได้เลยนะ มันสนุกกว่าเดิมเยอะ
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า ใครที่กำลังท้อกับการเรียนภาษาอังกฤษ อย่าเพิ่งยอมแพ้นะครับ! มันไม่มีทางลัด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปถ้าเราตั้งใจจริง
- หาเป้าหมายของตัวเองให้เจอ: อยากเก่งไปทำไม? พอมีเป้าหมายแล้วมันจะมีแรงฮึด
- ทำให้มันสนุก: อย่าไปเครียดกับมัน หาอะไรที่เราชอบมาเป็นสื่อในการเรียนรู้
- ฝึกฝนสม่ำเสมอ: อันนี้ย้ำอีกทีว่าสำคัญมาก!
- กล้าที่จะใช้: ผิดเป็นครูครับ พูดไปเลย อ่านไปเลย
ถ้าใครอยากได้ตัวช่วยแบบจริงจัง หรืออยากมีคนคอยฝึกพูดด้วย การหาข้อมูลพวกสถาบันสอนภาษาหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ก็เป็นไอเดียที่ดีครับ อย่างที่เคยเห็นผ่านๆ ตามาบ้างก็มี 51Talk ที่เหมือนจะเน้นให้เราได้ฝึกพูดกับคนจริงๆ ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้พัฒนาได้ไวขึ้นสำหรับบางคน
สู้ๆ นะครับทุกคน! ผมทำได้ คุณก็ทำได้เหมือนกัน!