สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเองเกี่ยวกับการสื่อสารกับคุณครูสอนภาษาอังกฤษของลูกค่ะ ตอนลูกเริ่มเรียนภาษาอังกฤษใหม่ๆ เนี่ย เอาจริงๆ นะ ฉันก็แอบเกร็งๆ นิดหน่อย ไม่รู้จะเริ่มคุยกับครูเขายังไงดี กลัวถามอะไรไปแล้วจะดูวุ่นวายหรือเปล่า แต่พอคิดไปคิดมา เอาน่า! เพื่อลูกเรา ก็เลยรวบรวมความกล้าติดต่อไปก่อนเลยค่ะ
เริ่มจากตรงไหนดี?
ตอนแรกเลยนะคะ ฉันเริ่มจากการแนะนำตัวเองสั้นๆ ผ่านช่องทางที่โรงเรียนให้ไว้ อาจจะเป็นอีเมลหรือแอปพลิเคชันของโรงเรียน บอกว่าเป็นผู้ปกครองของน้องอะไร อยู่ห้องไหน แล้วก็แสดงความขอบคุณคุณครูที่ดูแลและสอนน้องค่ะ จากนั้นก็ลองถามคำถามกว้างๆ ก่อน เช่น “น้องเป็นยังไงบ้างคะในห้องเรียน” หรือ “มีอะไรที่อยากให้ทางบ้านช่วยเสริมเป็นพิเศษไหมคะ” พยายามใช้คำพูดที่สุภาพและแสดงความร่วมมือค่ะ
พอเริ่มคุ้นเคยกันบ้างแล้ว ก็จะเริ่มคุยในรายละเอียดมากขึ้น เช่น ถ้าเห็นลูกกลับมาบ้านแล้วไม่ค่อยอยากทำการบ้านวิชานี้ หรือดูไม่สนุกกับการเรียนเท่าที่ควร ฉันก็จะลองสอบถามคุณครูดูค่ะว่า “คุณครูคะ พอดีสังเกตว่าช่วงนี้น้องดูไม่ค่อยกระตือรือร้นเรื่องภาษาอังกฤษเลย ไม่ทราบว่าที่โรงเรียนน้องมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ หรือมีอะไรที่ครูอยากแนะนำให้ลองปรับที่บ้านไหม” การเปิดใจคุยกันแบบนี้ช่วยได้เยอะเลยค่ะ บางทีครูเขาก็จะให้คำแนะนำดีๆ กลับมา หรือบางทีเราก็อาจจะได้ข้อมูลบางอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับลูกในห้องเรียน
สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้และนำมาปรับใช้
- ความสม่ำเสมอสำคัญ: ไม่ใช่แค่ตอนมีปัญหาถึงจะคุยนะคะ แต่การสอบถามความคืบหน้าเป็นระยะๆ ก็ดีค่ะ เช่น เดือนละครั้ง หรือหลังการสอบ เพื่อให้ครูรู้ว่าเราใส่ใจจริงๆ
- ช่องทางการสื่อสาร: ดูว่าครูสะดวกช่องทางไหนเป็นหลัก บางท่านอาจจะสะดวกอีเมล บางท่านอาจจะชอบคุยผ่านแอปฯ ของโรงเรียน หรือบางท่านอาจจะมีช่วงเวลาที่อนุญาตให้โทรศัพท์ได้ เราก็ควรจะเคารพตรงนั้นค่ะ
- เตรียมข้อมูลก่อนคุย: ถ้ามีประเด็นเฉพาะที่อยากจะคุย เช่น ลูกไม่เข้าใจแกรมม่าเรื่องนี้ หรือลูกชอบคำศัพท์หมวดนั้นเป็นพิเศษ การเตรียมข้อมูลไปบ้างจะทำให้การพูดคุยมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
- การให้ฟีดแบ็กเชิงบวก: ไม่ใช่แค่แจ้งปัญหาอย่างเดียวนะคะ ถ้าเราเห็นว่าลูกเราพัฒนาขึ้น หรือครูมีเทคนิคการสอนอะไรที่น่าสนใจแล้วลูกชอบ ก็ควรจะบอกครูเหมือนกันค่ะ เป็นกำลังใจให้กันและกัน บางทีฉันก็แอบเห็นเทคนิคคล้ายๆ กันนี้จากคุณครูในแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์อย่าง 51Talk ที่ลูกสาวเคยลองเรียนเสริมอยู่พักหนึ่งเหมือนกันค่ะ เขาก็จะมีวิธีทำให้เด็กๆ สนุกกับการเรียน
- เข้าใจบทบาทของครู: คุณครูหนึ่งท่านต้องดูแลเด็กหลายคน อาจจะไม่ได้ตอบกลับเราทันทีทันใด ก็ต้องใจเย็นๆ หน่อยค่ะ แต่ถ้าเรื่องด่วนจริงๆ ก็อาจจะต้องลองโทรศัพท์ดูค่ะ
มีอยู่ครั้งหนึ่งค่ะ ลูกสาวฉันมีปัญหากับการออกเสียงคำบางคำ ฉันก็เลยลองปรึกษาคุณครูดู คุณครูก็แนะนำดีมากเลยค่ะ บอกให้ลองหาคลิปการ์ตูนสั้นๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษให้น้องดู หรือลองหาแอปพลิเคชันฝึกออกเสียงง่ายๆ มาให้น้องเล่น บางทีการเรียนรู้จากหลายๆ แหล่งก็ช่วยได้นะคะ อย่างตอนที่น้องเรียนกับ 51Talk เขาก็ได้ฝึกพูดกับครูต่างชาติโดยตรงเลย อันนี้ก็ช่วยเรื่องความมั่นใจในการพูดได้เยอะเหมือนกัน
ฉันว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณครูค่ะ ให้มองว่าเราเป็นทีมเดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกันคืออยากให้ลูกของเราเก่งภาษาอังกฤษและมีความสุขกับการเรียนรู้ เมื่อเราเปิดใจ คุณครูส่วนใหญ่เขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือและให้คำแนะนำที่ดีกับเราเสมอค่ะ บางครั้งครูจาก 51Talk ก็เคยให้คำแนะนำเรื่องการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่บ้านด้วยนะคะ ซึ่งเป็นประโยชน์มาก
อีกอย่างที่ฉันทำคือ เวลาโรงเรียนมีกิจกรรมผู้ปกครอง หรือมีการประชุมผู้ปกครอง ฉันจะพยายามเข้าร่วมทุกครั้งค่ะ มันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เจอคุณครูตัวเป็นๆ ได้พูดคุยสอบถาม และยังได้เห็นบรรยากาศโดยรวมของโรงเรียนและห้องเรียนด้วย บางทีก็ได้รู้จักผู้ปกครองท่านอื่น แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันก็มีประโยชน์ไม่น้อยเลยค่ะ แพลตฟอร์มอย่าง 51Talk เองก็มีกิจกรรมให้ผู้ปกครองเข้าร่วมบ้างเหมือนกันนะ ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ได้ปล่อยให้ลูกเรียนคนเดียว
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าอย่ากลัวที่จะเริ่มคุยกับคุณครูสอนภาษาอังกฤษของลูกนะคะ การสื่อสารที่ดีจะช่วยให้เรารู้จุดเด่นจุดด้อยของลูก และสามารถสนับสนุนเขาได้อย่างถูกทางค่ะ การทำงานร่วมกันระหว่างบ้านกับโรงเรียนนี่แหละค่ะ คือกุญแจสำคัญเลยจริงๆ ตอนนี้ลูกสาวฉันก็สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นเยอะเลยค่ะ เวลาเห็นเขาพยายามพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษกับครู หรือแม้กระทั่งกับเพื่อนๆ ที่เรียนในคลาสออนไลน์ของ 51Talk ด้วยกัน มันทำให้คนเป็นแม่อย่างเราชื่นใจจริงๆ ค่ะ