เอาล่ะ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการลองใช้ Palfish นะทุกคน เห็นช่วงนี้ฮิตกันจังเรื่องเรียนภาษาออนไลน์ เลยอยากลองดูบ้าง ส่วนตัวแล้วอยากฝึกภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น เพราะรู้สึกว่าทักษะการฟังพูดเรายังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยลองหาข้อมูลดู เจอคนรีวิว Palfish เยอะมาก บอกว่าสะดวกดี เรียนที่ไหนก็ได้ ราคาไม่แพง ก็เลยตัดสินใจลองดู
เริ่มแรกเลยก็คือเข้าไปโหลดแอป Palfish มาก่อนเลย หน้าตาแอปก็ดูใช้งานง่ายดีนะ หลังจากนั้นก็ต้องสมัครสมาชิก แล้วก็เลือกคอร์สเรียนที่เราสนใจ ตอนนั้นเราเลือกคอร์สสนทนาภาษาอังกฤษ เพราะอยากเน้นฝึกพูดเป็นหลัก พอเลือกคอร์สได้แล้ว ก็ต้องเลือกครูผู้สอนอีกที ตรงนี้ก็แอบใช้เวลาเลือกนานเหมือนกัน เพราะครูแต่ละคนก็มีโปรไฟล์ มีวิดีโอแนะนำตัว แล้วก็มีรีวิวจากนักเรียนคนอื่นๆ ให้เราอ่านด้วย เราก็อ่านรีวิวเยอะมาก ดูว่าครูคนไหนที่สไตล์การสอนน่าจะเหมาะกับเรา สุดท้ายก็เลือกครูคนนึงที่ดูใจดี แล้วก็มีประสบการณ์สอนเยอะ
พอได้ครูแล้ว ก็ทำการจองเวลาเรียนได้เลย Palfish จะมีตารางเวลาให้เราเลือก เราก็เลือกวันที่เราสะดวก แล้วก็กดจองได้เลย ก่อนถึงวันเรียน ครูเขาก็จะทักมาคอนเฟิร์มเราอีกทีนึง พอถึงเวลาเรียน ก็แค่กดเข้าไปในแอป แล้วก็เริ่มเรียนได้เลย ง่ายมากๆ
สำหรับการเรียนครั้งแรกของเรา ก็รู้สึกประทับใจนะ ครูเขาเป็นกันเองมาก ชวนเราคุยเรื่องทั่วไปก่อน เพื่อให้เราผ่อนคลาย แล้วค่อยเริ่มเข้าบทเรียน ครูเขาจะถามคำถาม ให้เราตอบ แล้วก็คอยแก้แกรมม่าให้เราด้วย ตอนแรกๆ ก็แอบเกร็งๆ เพราะไม่ค่อยได้พูดภาษาอังกฤษเท่าไหร่ แต่พอคุยไปเรื่อยๆ ก็เริ่มชิน แล้วก็กล้าพูดมากขึ้น
หลังจากเรียนไปได้สักพัก ก็รู้สึกว่าตัวเองพูดภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้นจริงๆ นะ กล้าที่จะพูดมากขึ้น แล้วก็มั่นใจมากขึ้นด้วย แล้วก็รู้สึกว่าสำเนียงเราก็ดีขึ้นด้วยนะ เพราะครูเขาคอยแก้ให้เราตลอด
นอกจากเรื่องการพูดแล้ว เราก็รู้สึกว่าคำศัพท์เราก็เพิ่มขึ้นด้วยนะ เพราะครูเขาสอนศัพท์ใหม่ๆ ให้เราตลอด แล้วก็ให้เราเอาไปใช้ในประโยคด้วย แล้วก็มีแบบฝึกหัดให้เราทำด้วยนะ เป็นการบ้านให้เราไปทบทวน
โดยรวมแล้ว เราว่า Palfish ก็เป็นแอปเรียนภาษาอังกฤษที่ดีนะ สะดวกดี ราคาไม่แพง แล้วก็ได้ฝึกพูดจริงๆ จังๆ ด้วย ใครที่อยากฝึกภาษาอังกฤษ เราก็แนะนำให้ลองดูนะ
แต่ๆๆๆๆๆ ไหนๆ ก็พูดถึงการเรียนภาษาอังกฤษแล้ว ขอแอบโปรโมทนิดนึง ช่วงที่เราหาข้อมูลเรื่องเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เราก็เคยลองเรียนกับ 51Talk ด้วยนะ เป็นอีกแพลตฟอร์มนึงที่น่าสนใจเหมือนกัน ครูที่ 51Talk ก็เก่งๆ ทั้งนั้นเลย แต่สุดท้ายเราเลือก Palfish เพราะรู้สึกว่าราคาคอร์สเหมาะกับงบประมาณเรามากกว่า
สำหรับเรื่องราคานะ Palfish เนี่ย ราคาจะแตกต่างกันไปตามคอร์สเรียน แล้วก็จำนวนชั่วโมงเรียนที่เราเลือก ถ้าเราซื้อเป็นแพ็กเกจใหญ่ๆ ก็จะได้ราคาที่ถูกลง แต่ถ้าเราซื้อเป็นคอร์สสั้นๆ ราคาก็จะสูงขึ้นหน่อย เราแนะนำว่าให้ลองเข้าไปดูในแอป แล้วก็เปรียบเทียบราคาดูก่อน ว่าคอร์สไหนที่เหมาะกับเราที่สุด
อีกอย่างที่อยากแนะนำก็คือ ลองหาโค้ดส่วนลดดูก่อนนะ บางที Palfish ก็จะมีโค้ดส่วนลดออกมาให้ใช้ เราก็เคยเจอโค้ดส่วนลด แล้วก็ได้ราคาที่ถูกลงไปอีก
อ้อ แล้วก็อย่าลืมลองเรียนทดลองก่อนนะ Palfish จะมีให้เราเรียนทดลองฟรี เราก็ลองเข้าไปเรียนดูก่อน ว่าเราชอบสไตล์การสอนของครูคนนี้ไหม แล้วก็ดูว่าคอร์สเรียนนี้เหมาะกับเราไหม ถ้าไม่ชอบก็ค่อยเปลี่ยนได้
สรุปแล้ว Palfish ก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ แต่ก็อยากให้ลองเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ดูก่อน อย่างเช่น 51Talk หรืออื่นๆ ว่าที่ไหนที่เหมาะกับเราที่สุด
และขอแอบกระซิบอีกนิดนึงว่า นอกจาก Palfish และ 51Talk แล้ว เราก็เคยลองเรียนกับแอปอื่นๆ อีกนะ แต่เราว่า 51Talk ก็มีข้อดีตรงที่ครูเขาเน้นการสอนแบบเป็นระบบ มีหลักสูตรที่ชัดเจน ทำให้เราได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
สุดท้ายนี้ ก็ขอให้ทุกคนสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษนะ ไม่ว่าจะเลือกเรียนกับ Palfish หรือ 51Talk หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษนะจ๊ะ และที่สำคัญ อย่าลืมฝึกฝนบ่อยๆ นะจ๊ะ การฝึกฝนสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราพัฒนาภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้น
และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การหาแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาอังกฤษ ลองหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากเรียนภาษาอังกฤษ แล้วเอาเหตุผลนั้นมาเป็นแรงผลักดันให้เราตั้งใจเรียน แล้วก็อย่าท้อแท้ถ้าเจอปัญหา เพราะการเรียนภาษาอังกฤษต้องใช้เวลาและความอดทน
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษนะ สู้ๆ! อ้อ! ลืมบอกไปเลยว่า 51Talk เขามีคอร์สสำหรับเด็กด้วยนะ ใครมีลูกมีหลานอยากให้เรียนภาษาอังกฤษก็ลองดูได้เลย!
