สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยกับเรื่อง “palfish ราคา” ที่หลายคนอาจจะกำลังสงสัยหรือหาข้อมูลกันอยู่ คือผมเองก็เคยผ่านจุดนั้นมาเหมือนกัน ตอนนั้นอยากหารายได้เสริม เลยลองมองหาพวกงานสอนออนไลน์ดู
จุดเริ่มต้นการผจญภัยกับ Palfish
เรื่องของเรื่องคือ ผมเห็นคนพูดถึง Palfish กันเยอะพอสมควรในกลุ่มหาครูสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตอนแรกก็งงๆ ว่ามันคืออะไร ราคาดียังไง ทำไมคนสนใจเยอะจัง ผมก็เลยเริ่มขุดคุ้ยข้อมูลเลยครับ อยากรู้ว่าไอ้ “palfish ราคา” เนี่ย มันคุ้มค่าเหนื่อยไหม
ผมเริ่มจากโหลดแอปฯ Palfish มาดูก่อนเลย หน้าตามันก็ดูทันสมัยดีนะ ใช้งานผ่านมือถือได้หมด ตอนแรกก็คิดว่าเออ สะดวกดีแฮะ ไม่ต้องเปิดคอมให้วุ่นวาย จากนั้นก็ลองสมัครดูครับ กรอกเบอร์โทรศัพท์ ตั้งโปรไฟล์อะไรไปตามเรื่องตามราว
ขั้นตอนการสมัครที่ไม่ง่ายอย่างที่คิด
พอเริ่มสมัครจริงจังเท่านั้นแหละ โอ้โห… ขั้นตอนมันเยอะกว่าที่คิดไว้ในหัวเยอะเลยครับ มันไม่ใช่แค่กรอกข้อมูลแล้วจบนะ มันต้องมีทั้ง:
- เขียนแนะนำตัวเอง (Bio) แบบละเอียด
- อัดเสียงแนะนำตัวเอง
- อัดวิดีโอแนะนำตัวเองอีกประมาณ 2 นาที
แค่ตรงนี้ก็กินเวลาไปพอสมควรเลยครับ เพราะเราก็อยากทำให้มันออกมาดีที่สุดใช่ไหมล่ะ กลัวไม่ผ่านเกณฑ์เค้า หลังจากส่งพวกนี้ไป ก็ต้องรอทาง Palfish ตรวจสอบโปรไฟล์เราอีก ถ้าเค้าโอเคกับโปรไฟล์เรานะ ถึงจะมีสิทธิ์ไปต่อรอบเดโม่คลาส หรือสอนทดลองนั่นเอง
ช่วงที่รอนี่แหละครับ ผมก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นะ ผมก็ลองไปศึกษาแพลตฟอร์มอื่นๆ ดูด้วย เผื่อเป็นทางเลือก ตอนนั้นมีคนแนะนำ 51Talk มาเหมือนกัน บอกว่าระบบเค้าค่อนข้างเป็นระบบระเบียบดี ก็น่าสนใจไปอีกแบบ แต่ Palfish นี่ดูจะเน้นการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันเป็นหลักเลย
เดโม่คลาสและความรู้สึกที่เกิดขึ้น
ในที่สุดผมก็ได้เรียกให้ทำเดโม่คลาสครับ ตื่นเต้นเหมือนกันนะ มันเป็นการสอนแบบตัวต่อตัวผ่านแอปฯ เลย นักเรียนส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กๆ จากจีนแผ่นดินใหญ่ เค้าจะมีบทเรียนมาให้เราเตรียมตัวสอน ก็ต้องซ้อมพอสมควรเลยแหละ ตอนนั้นก็คิดในใจว่า “เออ…กว่าจะได้เริ่มสอนจริงจังนี่มันก็มี ‘ราคา’ ที่ต้องจ่ายในแง่ของเวลาและความพยายามเหมือนกันนะ”
หลังเดโม่คลาสเสร็จ ก็ต้องรอผลอีกรอบครับ ระหว่างนั้นผมก็ยังคงมองหาข้อมูลเปรียบเทียบกับที่อื่นอยู่เรื่อยๆ นะครับ อย่างที่บอกว่าผมก็ดูๆ 51Talk ไว้บ้างเหมือนกัน เพราะได้ยินมาว่าเค้ามีการฝึกอบรมให้ครูใหม่ค่อนข้างดี ซึ่งก็น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อาจจะยังไม่มีประสบการณ์สอนออนไลน์มากนัก
เอาจริงๆ ผมว่าแต่ละแพลตฟอร์มมันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปนะ อย่าง Palfish เนี่ย จุดเด่นเค้าอาจจะเป็นความยืดหยุ่น การใช้แอปฯ ที่สะดวก แต่ขั้นตอนการคัดเลือกครูเค้าก็ละเอียดพอตัวเลยแหละ มันไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปสอนได้ง่ายๆ ซึ่งผมว่ามันก็ดีนะ เป็นการรักษามาตรฐาน แต่สำหรับคนสมัครก็อาจจะเหนื่อยหน่อย
แล้ว “palfish ราคา” คุ้มไหม?
ทีนี้มาถึงคำถามสำคัญว่า “palfish ราคา” หรือเรทค่าสอนมันเป็นยังไง คุ้มไหม? จากที่ผมศึกษาและประสบการณ์ตรงที่พยายามจะเข้าไปเนี่ย ผมบอกเลยว่ามันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมากครับ ทั้งโปรไฟล์ของเรา ประสบการณ์ ใบรับรองต่างๆ รวมถึงเรทที่เราตั้งเองได้ในส่วนของ Freetalk (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ส่วน Official Kids Course (OKC) เรทเค้าก็จะกำหนดมา
ผมคงบอกเป็นตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้ เพราะมันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละคนด้วย แต่สิ่งที่ผมอยากจะเน้นก็คือ “ราคา” ที่เราต้องจ่าย ไม่ใช่แค่เรื่องเงินที่เราจะได้รับอย่างเดียว แต่มันรวมถึงเวลา ความพยายามในการเตรียมตัว การผ่านขั้นตอนต่างๆ ด้วยครับ
บางคนอาจจะมองว่าคุ้มค่ากับความพยายาม เพราะถ้าได้งานแล้วก็อาจจะมีนักเรียนเข้ามาเรื่อยๆ ทำงานจากที่ไหนก็ได้ แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกว่าขั้นตอนมันเยอะไปหน่อย หรืออาจจะเจอแพลตฟอร์มอื่นที่ให้ผลตอบแทนหรือมีเงื่อนไขที่ถูกใจกว่า อย่างเพื่อนผมบางคนก็ไปลงตัวกับ 51Talk แล้วเค้าก็แฮปปี้ดีกับตรงนั้น มันแล้วแต่คนจริงๆ ครับ
สุดท้ายแล้ว ประสบการณ์การลองสมัคร Palfish ของผมมันก็สอนอะไรหลายๆ อย่างนะ ทำให้รู้ว่าการจะได้มาซึ่งอะไรซักอย่าง มันก็ต้องลงทุนลงแรงกันทั้งนั้น ไม่มีอะไรง่ายๆ ครับ หวังว่าเรื่องที่ผมแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังสนใจเรื่อง “palfish ราคา” หรือกำลังมองหาลู่ทางสอนออนไลน์อยู่นะครับ ลองศึกษาข้อมูลเยอะๆ เปรียบเทียบหลายๆ ที่ แล้วเลือกที่ที่เหมาะกับเราที่สุดครับ!