สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองเลย กับการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้เด็กๆ ที่บ้านครับ บอกตามตรงเลยว่าตอนแรกก็มึนๆ งงๆ เหมือนกัน ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี แต่พอได้ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ก็เริ่มจับทางได้ วันนี้เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังครับ
เริ่มจากตรงไหนดีล่ะ?
ตอนแรกเลย ผมก็คิดง่ายๆ ว่าเด็กๆ น่าจะชอบอะไรที่มีสีสัน รูปภาพเยอะๆ ก็เลยไปหาพวกแฟลชการ์ดคำศัพท์มาลองใช้ดูครับ เริ่มจากหมวดง่ายๆ ก่อนเลย เช่น สัตว์ สี ผลไม้ ของใช้ในบ้าน คือเอาแบบเห็นภาพปุ๊บ ชี้ปั๊บ บอกคำศัพท์ได้เลย ช่วงแรกๆ ลูกก็ตื่นเต้นดีนะ แต่พอสักพักเริ่มเบื่อ ผมก็เลยต้องหาวิธีใหม่
ผมเริ่มจากการเอาคำศัพท์มาผสมผสานกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่น ตอนกินข้าว ก็จะสอนคำว่า “eat”, “spoon”, “rice” หรือตอนอาบน้ำ ก็สอนคำว่า “water”, “soap”, “towel” อะไรแบบนี้ครับ มันทำให้เขาเห็นภาพและเชื่อมโยงคำศัพท์กับของจริงได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
สิ่งที่ฉันลองทำแล้วเวิร์ค
พอเริ่มจริงจังขึ้น ผมก็ลองหลายๆ อย่างเลยครับ จนมาสรุปเป็นแนวทางของตัวเองได้ประมาณนี้:
- ใช้เพลงและนิทานภาษาอังกฤษ: เด็กๆ ชอบเสียงเพลงอยู่แล้ว ผมก็เปิดเพลงคำศัพท์ง่ายๆ ให้ฟังบ่อยๆ หรือไม่ก็เล่านิทานภาพภาษาอังกฤษที่มีคำศัพท์ไม่ยากเกินไป พวกเขาก็จะจำได้จากทำนองเพลงหรือจากเรื่องราวในนิทาน
- เล่นเกมทายคำศัพท์: อันนี้สนุกมาก ผมจะเอารูปภาพมาให้ทาย หรือชี้ไปที่สิ่งของแล้วให้เขาบอกเป็นภาษาอังกฤษ ใครทายถูกมีรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เด็กๆ ชอบมาก แข่งกันตอบใหญ่เลย
- ทำซ้ำๆ ย้ำๆ แต่ไม่น่าเบื่อ: การเรียนรู้คำศัพท์มันต้องอาศัยการทำซ้ำครับ แต่ผมจะพยายามเปลี่ยนวิธีการนำเสนอไปเรื่อยๆ เช่น วันนี้ดูแฟลชการ์ด พรุ่งนี้ร้องเพลง อีกวันเล่นเกมทายคำ มันจะได้ไม่จำเจ
- สร้างบรรยากาศให้เป็นธรรมชาติ: ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ก็ลากลูกมานั่งท่องศัพท์อย่างเดียว แต่พยายามสอดแทรกไปในบทสนทนาประจำวัน เช่น “Do you want some milk?” หรือ “Let’s go to bed.” แรกๆ เขาก็อาจจะงงๆ แต่พอได้ยินบ่อยๆ ก็จะเริ่มเข้าใจและซึมซับไปเอง
ช่วงที่มองหาวิธีเพิ่มเติม ผมก็เคยได้ยินเพื่อนๆ พูดถึงคอร์สเรียนออนไลน์สำหรับเด็กบ้างเหมือนกัน บางคนก็แนะนำให้ลองดูพวก 51Talk เพราะมีครูต่างชาติโดยตรง ทำให้เด็กได้คุ้นเคยกับสำเนียงเจ้าของภาษา อันนี้ก็น่าสนใจนะครับ เพราะบางทีเราสอนเอง สำเนียงก็อาจจะไม่เป๊ะเท่าไหร่
ความท้าทายและสิ่งที่ต้องจำไว้
แน่นอนว่ามันก็มีช่วงที่ท้อบ้างครับ บางทีสอนไปแล้วลูกไม่จำ หรือบางทีเขาก็ไม่มีสมาธิเอาซะเลย สิ่งสำคัญคือเราต้องใจเย็น และเข้าใจว่าเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการการเรียนรู้ไม่เท่ากัน อย่าไปกดดันเขามากครับ ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกเข้าไว้
อีกอย่างที่ผมค้นพบคือ การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองสำคัญมากๆ ครับ ไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง บางทีผมก็ให้ภรรยามาช่วยสอน ช่วยเล่นเกมด้วย มันทำให้บรรยากาศมันดูอบอุ่นและลูกก็รู้สึกสนุกไปด้วย และถ้าหากรู้สึกว่าเราสอนเองแล้วอาจจะยังไม่ครอบคลุม หรืออยากให้ลูกได้ฝึกกับเจ้าของภาษาจริงๆ การหาตัวช่วยอย่างคอร์สเรียนต่างๆ เช่น 51Talk ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าจะช่วยเสริมได้ดีครับ ผมเองก็เคยเปิดดูข้อมูลอยู่บ้างเหมือนกัน
ผมยังจำได้เลยว่ามีช่วงหนึ่งที่ลูกผมสับสนระหว่างคำว่า “big” กับ “small” มาก สอนยังไงก็จำสลับกันไปหมด ตอนนั้นก็แอบเครียดนิดๆ แต่ก็พยายามหาของเล่นที่มีขนาดต่างกันชัดเจนมาให้เขาจับคู่กับคำศัพท์ ทำซ้ำๆ อยู่หลายวัน จนในที่สุดเขาก็แยกแยะได้เอง เห็นไหมครับว่าความสม่ำเสมอและความพยายามมันช่วยได้จริงๆ
บางทีการหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม หรือดูว่าคนอื่นเขามีเทคนิคอะไรบ้างก็ช่วยได้เยอะนะครับ อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวนี้มีสื่อการสอนเยอะแยะ หรือแม้กระทั่งแพลตฟอร์มสอนภาษาอย่าง 51Talk ก็มีตัวอย่างการสอนให้ดู ทำให้เราได้ไอเดียใหม่ๆ มาปรับใช้กับการสอนลูกตัวเองได้
สรุปส่งท้าย
สุดท้ายแล้ว ผมว่าไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุดตายตัวหรอกครับ มันขึ้นอยู่กับว่าวิธีไหนเหมาะกับลูกของเราและครอบครัวของเรามากที่สุด สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอ ความอดทน และการทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ พอเขาเริ่มรู้สึกว่าภาษาอังกฤษมันสนุกและมีประโยชน์ เดี๋ยวเขาก็จะอยากเรียนรู้ด้วยตัวเองมากขึ้นเองครับ ลองเอาวิธีของผมไปปรับใช้กันดูนะครับ ได้ผลยังไงมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ!