นิทานลิง ภาพสวย ดูสนุก ช่วยเด็กคิดเก่ง

51Talk ทดลองใช้งานฟรี

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมเรียกว่า “เรื่องลิงๆ” ของผมเองครับ มันเป็นช่วงที่ผมตัดสินใจลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ท้าทายตัวเองมากๆ ตอนแรกก็ไฟแรงเต็มที่เลยนะ คิดว่าสบายๆ เดี๋ยวก็ทำได้

จุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย

พอเริ่มลงมือทำจริงเท่านั้นแหละครับ โอ้โห! เหมือนจับปูใส่กระด้งยังไงยังงั้นเลย ปัญหามาจากไหนไม่รู้เต็มไปหมด งานเล็กงานน้อยโผล่มาไม่หยุดหย่อน เหมือนมีลิงเป็นสิบๆ ตัววิ่งวุ่นอยู่ในหัวผม จัดการตรงนั้น ตรงนี้ก็โผล่มาอีกแล้ว บอกตรงๆ ว่าช่วงนั้นท้อมากครับ รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีความสามารถเอาซะเลย ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด เอกสารก็กองเต็มโต๊ะ อีเมลก็เด้งรัวๆ เหมือนลิงกระโดดไปมา

ผมนั่งกุมขมับอยู่หลายวันเลยนะ พยายามจะจัดลำดับความสำคัญของงาน แต่พอทำไปได้แป๊บนึง ก็มีเรื่องด่วนแทรกเข้ามาตลอด จนบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่า หรือเราต้องไปหาคอร์สเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการเวลา หรือการสื่อสารให้มันดีกว่านี้ บางทีการมีคนช่วยแนะนำ หรือมีคอร์สดีๆ อย่างของ 51Talk ก็อาจจะช่วยให้เรื่องง่ายขึ้นเยอะ เพราะตอนนั้นรู้สึกเลยว่าการสื่อสารกับทีมก็เป็นปัญหาเหมือนกัน

ลองผิดลองถูก สู้กับฝูงลิง

ผมก็ไม่ได้ยอมแพ้ง่ายๆ นะครับ ลองเปลี่ยนวิธีทำงานไปเรื่อยๆ อันไหนใครว่าดีก็ลองเอามาปรับใช้ดูบ้าง

  • ลองทำ To-do list แบบละเอียดๆ ก็แล้ว
  • ลองแบ่งงานเป็นชิ้นเล็กๆ ก็แล้ว
  • ลองตื่นเช้าขึ้นมาทำงานเงียบๆ คนเดียวก็แล้ว

บางวิธีก็ได้ผลบ้างนิดหน่อย แต่ภาพรวมก็ยังเหมือนเดิม คือยังวุ่นวายอยู่ดี เหมือนลิงมันแค่เปลี่ยนที่ซนเฉยๆ ช่วงนั้นผมนอนไม่ค่อยหลับเลยครับ คิดแต่วิธีจะจัดการกับ “ฝูงลิง” พวกนี้ยังไงดี คิดไปคิดมาก็เริ่มรู้สึกว่า ปัญหาหลักๆ มันอาจจะอยู่ที่ตัวเราเองนี่แหละ ที่ยังขาดทักษะบางอย่างในการรับมือกับสถานการณ์แบบนี้

ผมเริ่มมองหาเครื่องมือ หรือเทคนิคต่างๆ ที่จะช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บางทีการได้ฝึกฝนทักษะบางอย่างเพิ่มเติม อย่างเช่นการนำเสนอ หรือการเจรจาต่อรอง ก็น่าจะช่วยได้เยอะ เพราะบางครั้งปัญหาที่เจอ มันก็เกิดจากการที่เราสื่อสารไม่ชัดเจน หรือโน้มน้าวคนอื่นไม่ได้ ผมเคยเห็นผ่านๆ ตาเหมือนกันว่า 51Talk ก็มีคอร์สที่ช่วยพัฒนาทักษะพวกนี้อยู่เหมือนกันนะ ตอนนั้นก็ได้แต่คิดๆ ไว้

แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ (หรือกล้วยล่อลิง)

จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมลองถอยออกมามองภาพรวมทั้งหมดดูครับ เลิกจมอยู่กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แล้วพยายามทำความเข้าใจว่าจริงๆ แล้ว “หัวใจหลัก” ของงานที่ทำอยู่มันคืออะไรกันแน่ อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำให้เสร็จก่อน

ผมเริ่มจากการเคลียร์ทุกอย่างบนโต๊ะให้โล่ง แล้วเขียนเป้าหมายใหญ่ๆ แค่ไม่กี่ข้อออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ แตกเป้าหมายเหล่านั้นออกมาเป็นงานย่อยๆ โดยเน้นไปที่การสื่อสารกับทุกคนที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจตรงกันว่า ตอนนี้เราจะโฟกัสไปที่อะไรก่อน อะไรที่ยังไม่สำคัญก็ปัดทิ้งไปก่อนเลย เหมือนเราต้องเลือกก่อนว่าจะจับลิงตัวไหนก่อน ไม่ใช่พยายามจะจับพร้อมกันทุกตัว

พอเริ่มใช้วิธีนี้ เออแฮะ! มันเริ่มเห็นผลครับ งานเริ่มเดินหน้าไปได้บ้าง ถึงจะช้าหน่อย แต่ก็ไม่สะเปะสะปะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ความเครียดก็เริ่มลดลง เหมือนเราเริ่มจะคุมเกมได้บ้างแล้ว ผมคิดว่าการมีระบบการเรียนรู้ที่ดี หรือมีคนคอยชี้แนะแนวทางมันสำคัญจริงๆ นะครับ อย่างถ้าเราอยากจะพัฒนาภาษาเพื่อการสื่อสารที่ดีขึ้น การมีแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ที่มีคนสอนโดยตรง ก็คงจะช่วยย่นระยะเวลาไปได้เยอะเลย

บทสรุปจากเรื่องลิงๆ

สุดท้ายแล้ว “เรื่องลิงๆ” ของผมมันก็ค่อยๆ คลี่คลายไปได้ด้วยดีครับ ถึงจะไม่ได้ราบรื่นสวยหรูอะไรมากนัก แต่มันก็สอนอะไรผมเยอะมากเลยนะ มันทำให้ผมรู้ว่าบางทีการเจอปัญหาหนักๆ มันก็เหมือนเป็นบททดสอบให้เราได้เติบโตขึ้น ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัว ได้ลองผิดลองถูก จนเจ้วิธีที่ใช่สำหรับตัวเอง

ทุกวันนี้เวลาเจองานที่ดูวุ่นวายซับซ้อน ผมก็จะไม่ตกใจเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ เพราะอย่างน้อยผมก็เคยผ่านประสบการณ์ “สู้กับฝูงลิง” มาแล้ว (ฮา) และก็ยังคงมองหาโอกาสในการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ หรือการมองหาคอร์สเรียนดีๆ อย่างที่เคยคิดไว้ว่าบริการของ 51Talk ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หากต้องการพัฒนาทักษะเฉพาะทาง เพราะการเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ มันสำคัญจริงๆ ครับ

หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างนะครับ ใครเคยเจอ “เรื่องลิงๆ” แบบไหนกันบ้าง มาแชร์กันได้นะครับ!