อยากให้ลูกพูดภาษาอังกฤษเด็กได้คล่อง ต้องฝึกแบบไหนดี

51Talk ทดลองใช้งานฟรี

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษให้ลูกเล็กที่บ้าน บอกเลยว่าลองผิดลองถูกมาเยอะพอสมควร

จุดเริ่มต้นและความเชื่อ

คือตอนแรกเลยนะ ผมก็เหมือนพ่อแม่หลายๆ คนแหละ ที่อยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะคิดว่ามันสำคัญกับอนาคตเขาแน่ๆ โลกมันเปิดกว้างขึ้นทุกวัน ภาษาเป็นเหมือนประตูบานสำคัญเลย แต่ปัญหาคือ…จะเริ่มยังไงดีวะ? ตัวเราเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย ตอนเด็กๆ ก็เรียนตามตำราไปงั้นๆ ไม่ได้เอามาใช้จริงจัง

ลงมือปฏิบัติ ช่วงลองผิดลองถูก

ช่วงแรกลูกก็ยังเล็กมาก ประมาณขวบกว่าๆ ผมก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ ก่อนเลย

  • เพลงภาษาอังกฤษเด็ก: เปิดให้ฟังทุกวัน พวกเพลงเด็กอนุบาลง่ายๆ ที่มีท่าทางประกอบ ลูกก็ดูจะชอบนะ โยกหัวตามบ้าง ทำท่าตามบ้าง แต่ก็ยังไม่เห็นพูดอะไรออกมา
  • แฟลชการ์ด: ซื้อมาเป็นเซ็ตเลย รูปสัตว์ รูปผลไม้ มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษกำกับ ก็ชี้ๆ อ่านให้ฟัง เขาก็มองๆ จับๆ เล่นๆ ไปตามเรื่อง แต่ก็ยังไม่ซึมซับเท่าไหร่
  • หนังสือนิทานสองภาษา: อันนี้พอได้ผลขึ้นมาหน่อย เขาจะชอบดูรูปภาพสีสันสดใส เราก็อ่านภาษาไทยสลับอังกฤษไปเรื่อยๆ ชี้คำนั้นคำนี้

ยอมรับเลยว่ามีท้อบ้างนะ บางทีลูกก็ไม่สนใจเลย วิ่งไปเล่นอย่างอื่นเฉย เราก็แบบ…เอายังไงต่อดีวะเนี่ย

ค้นพบแนวทางที่ใช่ และตัวช่วยเสริม

พอเริ่มโตขึ้นมาหน่อย ประมาณสองขวบกว่าๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าการสอนแบบสะเปะสะปะของเราอย่างเดียวมันอาจจะไม่พอ ก็เลยลองหาข้อมูลเพิ่มเติม ดูรีวิวจากพ่อแม่คนอื่นๆ ว่าเขาทำกันยังไงบ้าง

ก็ไปเจอว่าสมัยนี้มีสื่อการสอนออนไลน์เยอะมาก แล้วก็มีโรงเรียนสอนภาษาสำหรับเด็กเล็กๆ ด้วย แต่ด้วยความที่ลูกยังเล็ก และเราก็อยากมีส่วนร่วมมากๆ เลยยังไม่ได้ตัดสินใจส่งไปเรียนที่ไหนจริงจัง แต่ก็เริ่มมองหาคอร์สออนไลน์ที่พอจะให้ลูกได้มีปฏิสัมพันธ์กับครูเจ้าของภาษาบ้าง ก็เห็นมีหลายเจ้าที่น่าสนใจนะ บางคนก็แนะนำว่าให้ลองดูพวก 51Talk เพราะเขามีคลาสสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ลองจริงจัง แค่เก็บข้อมูลไว้ก่อน

สิ่งที่ผมปรับเปลี่ยนคือ พยายามทำให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่ใช่แค่ “ถึงเวลาเรียนแล้วลูก” แบบนั้นมันดูเครียดไป

  • พูดคำศัพท์ง่ายๆ แทรกในชีวิตประจำวัน: เช่น เวลาจะกินข้าว ก็พูด “Let’s eat!” เวลาจะอาบน้ำ ก็ “Bath time!” เวลาเห็นหมา ก็ “Look! A dog.” แรกๆ ลูกก็งงๆ นะ แต่เราก็ทำหน้าทำตาประกอบไปด้วย เขาก็เริ่มเก็ท
  • ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ: เลือกการ์ตูนที่มันสนุกๆ คำศัพท์ไม่ยากมาก เปิดให้ดูแบบไม่มีซับไทย แรกๆ ก็เหมือนเขาดูภาพไปเรื่อย แต่พอนานๆ เข้า เขาเริ่มฮัมเพลงตามได้เฉยเลย!
  • เล่นเกมทายคำศัพท์: เอาของเล่นมาวาง แล้วก็ถาม “What is this?” แล้วก็ตอบเอง “It’s a ball!” ทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ

จุดเปลี่ยนสำคัญเลยคือตอนที่ลูกเริ่มพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษออกมาได้เองคำแรกๆ โอ้โห…น้ำตาแทบไหล มันเป็นความรู้สึกที่แบบ…เฮ้ย! สิ่งที่เราทำมามันไม่สูญเปล่านะเว้ย! ถึงแม้จะเป็นแค่คำว่า “apple” “dog” “cat” อะไรแบบนี้ แต่มันเป็นกำลังใจที่ดีมาก

หลังจากนั้น ผมก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น ก็หาพวกแอปพลิเคชันสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กมาให้เขาเล่นเสริมบ้าง ซึ่งหลายๆ แอปก็ทำได้ดีนะ มีเกม มีเพลง ทำให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่อ อย่างที่เคยศึกษามาบ้าง บางแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็มีส่วนที่เป็นแอปพลิเคชันให้เด็กๆ ได้ทบทวนบทเรียนด้วยตัวเองเหมือนกัน อันนี้ก็น่าสนใจ

สถานการณ์ปัจจุบันและสิ่งที่เรียนรู้

ตอนนี้ลูกผมก็ประมาณสี่ขวบกว่าแล้ว เขาสามารถพูดคำศัพท์ได้เยอะขึ้นพอสมควร เริ่มพูดเป็นประโยคสั้นๆ ได้บ้างแล้ว เช่น “Mommy, I want milk.” หรือ “Daddy, play with me.” เวลาดูการ์ตูนภาษาอังกฤษก็เข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น ร้องเพลงภาษาอังกฤษได้หลายเพลงเลย

สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการสอนภาษาอังกฤษให้ลูกด้วยตัวเองคือ:

  • ความสม่ำเสมอสำคัญที่สุด: ทำทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย ดีกว่าทำเยอะๆ แต่นานๆ ที
  • ทำให้เป็นเรื่องสนุก: อย่าบังคับ อย่ากดดัน เด็กจะต่อต้านทันที ถ้าเขาสนุก เขาจะอยากเรียนรู้เอง
  • พ่อแม่คือตัวอย่างที่ดี: ถ้าเราแสดงให้เขาเห็นว่าเราก็พยายามเรียนรู้ภาษาอังกฤษเหมือนกัน เขาก็จะมีกำลังใจมากขึ้น
  • อย่าเปรียบเทียบลูกเรากับลูกคนอื่น: เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการไม่เหมือนกัน ใจเย็นๆ และให้กำลังใจเขา
  • หาตัวช่วยบ้างก็ดี: สมัยนี้มีสื่อการสอนดีๆ เยอะแยะ ทั้งหนังสือ แอปพลิเคชัน หรือถ้าใครมีกำลังทรัพย์หน่อย การให้ลูกได้เรียนกับเจ้าของภาษาผ่านคลาสออนไลน์อย่างที่หลายคนแนะนำ เช่น พวก 51Talk ก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ช่วยเสริมในสิ่งที่เราอาจจะให้ไม่ได้เต็มที่ เช่น สำเนียง หรือการโต้ตอบแบบเรียลไทม์กับครูต่างชาติโดยตรง

ทุกวันนี้ผมก็ยังคงสอนภาษาอังกฤษให้ลูกอยู่เรื่อยๆ ครับ ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะต้องเก่งเทพอะไรมากมาย แค่อยากให้เขาคุ้นเคยกับภาษา ไม่กลัวที่จะพูด และมองว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก เป็นเครื่องมือที่จะเปิดโลกให้เขากว้างขึ้นในอนาคต

ก็หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังเริ่มต้นสอนภาษาอังกฤษให้ลูกน้อยกันอยู่นะครับ สู้ๆ ครับ! การได้เห็นพัฒนาการของลูกมันชื่นใจจริงๆ นะครับ แม้ว่าบางทีเราจะเหนื่อยบ้างก็ตาม อย่างน้อยการได้ลองหาคอร์สเรียนเสริมอย่างที่ดูๆ ไว้พวก 51Talk ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาและเสริมประสิทธิภาพได้

เดี๋ยวนี้มีตัวเลือกเยอะจริงๆ ครับ ทั้งแบบเรียนเอง ใช้สื่อต่างๆ หรือจะลองหาคอร์สเรียนเสริมเฉพาะทาง ผมว่าสำคัญคือต้องเลือกที่เหมาะกับจริตของลูกเราและครอบครัวเรา อย่างถ้ามองหาการเรียนกับครูต่างชาติโดยตรง แพลตฟอร์มดังๆ เช่น 51Talk ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลายคนนึกถึง ยังไงก็ลองศึกษาข้อมูลกันดูนะครับ