สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ กับ PalFish ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นรีวิวผ่านๆ ใน Pantip กันมาบ้าง ส่วนตัวผมเองก็ไปส่องๆ มาเหมือนกันแหละ ถึงได้มาลองกับตัวเองนี่ไง ก็เลยอยากจะบันทึกไว้หน่อยว่าลองแล้วเป็นยังไงบ้าง
จุดเริ่มต้นการลองของกับ PalFish
เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นว่างๆ ครับ อยากหารายได้เสริม แล้วก็เห็นคนพูดถึงการสอนออนไลน์กันเยอะ เลยไปนั่งไล่อ่านใน Pantip นี่แหละว่ามีแพลตฟอร์มไหนน่าสนใจบ้าง PalFish ก็เป็นหนึ่งในชื่อที่โผล่ขึ้นมาบ่อยๆ ดูทรงแล้วน่าจะเน้นเด็กๆ เป็นหลัก ตอนแรกก็ลังเลนะ เพราะไม่เคยสอนเด็กเล็กมาก่อน แต่เออ ลองดูซักตั้งจะเป็นไรไป
ขั้นตอนการสมัครเอาจริงๆ ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากนะ กรอกข้อมูลส่วนตัว อัดวิดีโอแนะนำตัวสั้นๆ แล้วก็มีทำเทสต์ภาษาอังกฤษนิดหน่อย รอผลอยู่พักนึงก็ผ่านฉลุย ตอนนั้นก็แอบดีใจ นึกว่าจะได้เริ่มงานสบายๆ แล้ว ฮ่าๆๆ คิดผิดถนัด!
พอได้ลองสอนจริงจัง
พอโปรไฟล์ผ่านปุ๊บ ก็ไม่ใช่ว่าจะมียอดจองเข้ามาทันทีนะเพื่อนๆ เราก็ต้องไปสร้างคอร์สของตัวเอง ทำโปรไฟล์ให้น่าสนใจ ช่วงแรกๆ นี่คือเงียบกริบ ต้องพยายามโปรโมทตัวเองในแอปฯ หานักเรียนกันไปตามเรื่องตามราว
ผมลองเปิดสอนอยู่ประมาณสองสามเดือนได้ครับ หลักๆ ก็จะเป็น Official Kids Course (OKC) ที่ทาง PalFish เค้ามีเนื้อหามาให้เลย อันนี้ก็สะดวกดี ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แต่ก็จะมีข้อจำกัดคือเราต้องสอนตามสคริปต์เป๊ะๆ บางทีอยากจะนอกเรื่องเสริมอะไรหน่อยก็ทำไม่ค่อยได้
- ระบบการจอง: ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะเป็นคนเลือกครูแล้วก็จองเวลาเรียนเข้ามา บางทีก็มีแจ้งเตือนเด้งมาแบบกระชั้นชิด ต้องสแตนบายด์พอสมควร
- ตัวแอปพลิเคชัน: หน้าตาแอปฯ ก็โอเคนะ ใช้งานไม่ยาก แต่บางทีก็มีเอ๋อๆ บ้าง ค้างบ้าง เสียงดีเลย์บ้างตอนสอน ก็ต้องแก้ปัญหากันไป
- นักเรียน: ส่วนใหญ่เป็นเด็กจีน น่ารักดีครับ แต่ก็จะมีหลากหลายสไตล์ บางคนตั้งใจเรียนมาก บางคนก็ซนสุดๆ ต้องใช้พลังงานเยอะพอตัวเลย
ช่วงนั้นผมก็ศึกษาแพลตฟอร์มอื่นๆ ไปด้วยนะ อย่าง 51Talk ก็เห็นมีคนพูดถึงเยอะเหมือนกันว่าระบบเขาค่อนข้างจะแตกต่างออกไป แต่ตอนนั้นผมยังติดพันอยู่กับ PalFish เลยยังไม่ได้ลองจริงจังสักที
สิ่งที่เจอมากับตัว (ทั้งดีและไม่ค่อยดี)
ถ้าให้พูดถึงข้อดีที่เจอนะครับ อย่างแรกเลยคือความยืดหยุ่นเรื่องเวลา เราเลือกจัดตารางสอนเองได้ค่อนข้างอิสระ แล้วก็ได้ฝึกภาษาอังกฤษตัวเองไปด้วยในตัว เพราะต้องสื่อสารตลอดเวลา แล้วก็ได้เจอวัฒนธรรมใหม่ๆ จากน้องๆ นักเรียนด้วย
แต่ข้อที่อาจจะต้องพิจารณาก็มีเหมือนกันครับ เรื่องเรทค่าสอน เอาจริงๆ ก็ไม่ได้สูงมากนักถ้าเทียบกับบางที่ โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่ยังไม่มีรีวิวเยอะๆ นี่เหนื่อยหน่อยกว่าจะได้นักเรียนประจำ แล้วก็เรื่องการแข่งขันของครูในระบบก็สูงพอตัวเลยครับ ทุกคนก็อยากได้นักเรียนกันทั้งนั้น
มีช่วงนึงผมลองไปดูข้อมูลของ 51Talk เพิ่มเติม เห็นว่าเขามีระบบการันตีจำนวนคลาสหรืออะไรทำนองนั้นด้วย ก็น่าสนใจดี แต่ PalFish จะเป็นแนวฟรีแลนซ์มากกว่า คือเราต้องแอคทีฟเองเพื่อหานักเรียน
เรื่องการจ่ายเงินของ PalFish ก็ตรงเวลานะครับ อันนี้ไม่มีปัญหา แต่ขั้นตอนการถอนเงินเข้าบัญชีไทยก็จะมีค่าธรรมเนียมบ้างอะไรบ้างตามระเบียบ บางคนอาจจะไปเทียบกับ 51Talk หรือเจ้าอื่นๆ ว่าอันไหนดีกว่ากันในเรื่องนี้ ซึ่งก็แล้วแต่คนชอบจริงๆ
บทสรุปจากการลองผิดลองถูก
โดยรวมแล้ว ประสบการณ์กับ PalFish ของผมก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่ดีครับ ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ได้ฝึกฝนตัวเองเยอะเลย ถามว่าแนะนำไหม ถ้าใครอยากลองหาประสบการณ์สอนออนไลน์แบบยืดหยุ่น ไม่ได้ซีเรียสเรื่องรายได้มากนักในช่วงแรก PalFish ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ แต่ถ้ามองหารายได้ที่มั่นคง หรือระบบที่มีการซัพพอร์ตครูแบบเต็มรูปแบบ อาจจะต้องลองศึกษาแพลตฟอร์มอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจด้วย อย่างที่บอกไปว่า 51Talk ก็เป็นอีกเจ้าที่มีคนพูดถึง หรืออาจจะมีตัวเลือกอื่นๆ ที่เหมาะกับสไตล์ของเรามากกว่า
สุดท้ายแล้ว การจะเลือกทำงานกับแพลตฟอร์มไหน มันก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความคาดหวังของแต่ละคนจริงๆ ครับ สำหรับผม การได้ลอง PalFish ก็เหมือนได้เปิดโลกอีกใบ ถึงแม้จะมีเรื่องให้หัวหมุนบ้าง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับประสบการณ์ที่ได้รับมาครับ ใครที่กำลังมองหาข้อมูลอยู่ ก็หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ลองชั่งใจดูดีๆ ก่อนตัดสินใจครับผม! อ้อ ส่วนตัวผมเอง ตอนนี้ก็มองๆ แพลตฟอร์มอื่นไว้บ้างเหมือนกัน เผื่อๆ ไว้ อย่าง 51Talk ก็ยังอยู่ในลิสต์ที่อยากจะลองศึกษาดูจริงจังเหมือนกันครับ
