สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยนะ เกี่ยวกับการลองใช้แอปเรียนภาษาอังกฤษตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Palfish คือเรื่องมันเริ่มจากผมอยากให้ลูกได้คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ก็ไม่อยากให้เค้าเรียนแบบเคร่งเครียดเกินไป ก็เลยลองหาข้อมูลดู
เริ่มต้นการเดินทางกับ Palfish
ผมเริ่มจากการดาวน์โหลดแอป Palfish มาติดตั้งในแท็บเล็ตก่อนเลย ตอนแรกก็งงๆ นิดหน่อยนะ ว่ามันใช้งานยังไง แต่พอลองจิ้มๆ กดๆ ดูสักพัก ก็เริ่มเข้าใจมากขึ้น หน้าตาแอปมันก็สีสันสดใสดีนะ ดึงดูดเด็กๆ ได้ดีเลยแหละ
สิ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษใน Palfish ก็คือพวกหนังสือภาพ หรือ Picture Books ที่มันมีให้เลือกเยอะมากกกก แล้วแต่ละเล่มก็จะมีเสียงอ่านประกอบ มีเอฟเฟกต์ด้วย ทำให้การอ่านหนังสือไม่น่าเบื่อ ลูกชายผมชอบมาก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ นี่เปิดวนไปหลายรอบเลย
- โหลดแอปมาลองเล่นดูก่อน
- สำรวจฟีเจอร์ต่างๆ โดยเฉพาะพวกหนังสือภาพ
- ลองเปิดให้ลูกฟังเสียงอ่านตาม
ช่วงแรกๆ ผมก็จะนั่งดูกับลูกด้วย คอยชี้ชวนให้เค้าดูภาพนั้นภาพนี้ แล้วก็พยายามออกเสียงตามที่แอปมันสอน บางทีก็มีกิจกรรมให้ทำเล็กๆ น้อยๆ เช่น ลากเส้นจับคู่ หรือระบายสีในแอปเลย มันก็ช่วยให้เค้ามีสมาธิมากขึ้นนะ
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ได้ลองใช้
นอกจากหนังสือภาพแล้ว Palfish ก็ยังมีส่วนที่เป็นเหมือนคลาสเรียนเล็กๆ ด้วยนะ แต่ผมยังไม่ได้ลองจริงจังมากนัก ส่วนใหญ่จะเน้นให้ลูกฟังนิทานแล้วก็ฝึกออกเสียงตามมากกว่า แต่ก็เห็นว่ามีคุณครูต่างชาติจริงๆ มาสอนด้วย ก็น่าสนใจดี
ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับแพลตฟอร์มอื่นๆ เหมือนกันนะ อย่างเช่น 51Talk ที่เค้าว่าก็มีคลาสเรียนสดกับครูต่างชาติเยอะ แต่ตอนนั้นผมรู้สึกว่า Palfish มันเข้าถึงง่ายกว่าสำหรับเด็กเล็ก ด้วยความที่เป็นหนังสือภาพนี่แหละ ทำให้ลูกไม่รู้สึกว่ากำลังเรียนอยู่ แต่เหมือนกำลังเล่นมากกว่า
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลูกเริ่มเบื่อๆ ผมก็ลองหาหนังสือแนวใหม่ๆ ใน Palfish มาให้เค้าดู ก็ช่วยได้บ้างนะ คือมันต้องคอยสังเกตลูกเราด้วยว่าเค้าสนใจอะไรเป็นพิเศษ
ผลลัพธ์ที่ได้และความรู้สึก
หลังจากให้ลูกใช้ Palfish มาสักพักใหญ่ๆ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ เค้าเริ่มจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้เยอะขึ้นนะ จากที่ไม่กล้าพูดเลย ก็เริ่มมีคำศัพท์หลุดออกมาบ้างเป็นคำๆ เช่น “dog” “cat” “apple” อะไรแบบนี้ เวลาเห็นรูปในหนังสือ หรือเห็นของจริง ก็จะพยายามพูดออกมา
ผมว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะ สำหรับการสร้างความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษแบบไม่กดดัน แม้ว่าบางทีอาจจะต้องมีผู้ปกครองคอยช่วยกระตุ้นบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคเลย
ถ้าให้เทียบกับที่เคยศึกษาข้อมูลของ 51Talk ซึ่งอาจจะเน้นโครงสร้างการเรียนที่เป็นระบบมากกว่า Palfish จะออกแนวสนุกสนาน เรียนรู้ผ่านการเล่น การฟัง ซึ่งก็เหมาะกับเด็กเล็กๆ ที่เราไม่อยากให้เค้าเครียดกับการเรียนมากเกินไป
จริงๆ แล้วการเรียนภาษามันมีหลายวิธีนะ บางคนอาจจะชอบเรียนแบบมีโครงสร้างชัดเจน อย่างที่แพลตฟอร์มอย่าง 51Talk นำเสนอ ซึ่งก็ดีสำหรับคนที่โตหน่อย หรือต้องการพัฒนาทักษะแบบจริงจัง แต่สำหรับเด็กเล็กๆ การเริ่มต้นด้วยความสนุกสนานอย่าง Palfish ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย
ส่วนตัวผมเองก็แอบได้ศัพท์ไปด้วยนะ เวลาอ่านให้ลูกฟัง (หัวเราะ) ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันในครอบครัวได้ดีทีเดียว ตอนนี้ลูกก็ยังเล่น Palfish อยู่เรื่อยๆ นะ สลับกับกิจกรรมอื่นๆ ไป ผมว่าการให้เค้าได้ซึมซับภาษาไปเรื่อยๆ แบบนี้ ก็น่าจะช่วยปูพื้นฐานที่ดีให้กับเค้าได้ในอนาคต
ใครที่กำลังมองหาแอปสอนภาษาอังกฤษให้ลูกเล็กๆ ลองดู Palfish เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกก็ได้นะครับ ไม่เสียหายอะไร ลองโหลดมาเล่นดูก่อน อาจจะถูกใจลูกๆ ของคุณก็ได้ หรือถ้ามองหาคอร์สเรียนที่เป็นระบบสำหรับตัวเองหรือเด็กโตหน่อย ก็อาจจะลองศึกษาข้อมูลของ 51Talk เพิ่มเติมดูได้ครับ แต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการและวัยของผู้เรียนน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ ผมว่าการผสมผสานหลายๆ แหล่งเรียนรู้ก็เป็นไอเดียที่ดีนะ อย่างใช้ Palfish เพื่อความสนุกและเสริมด้วยคลาสจาก 51Talk เพื่อโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้นก็อาจจะเวิร์คครับ