สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ของผมเลย กับการพาลูกน้อยที่บ้านตะลุยโลกภาษาอังกฤษผ่านแบบฝึกหัดออนไลน์นี่แหละครับ บอกเลยว่าช่วงแรกๆ ก็งงเป็นไก่ตาแตกเหมือนกันว่าจะเริ่มยังไงดี
เรื่องของเรื่องก็คือ ลูกผมเริ่มโตพอจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้แล้ว ผมก็อยากให้แกได้ภาษาอังกฤษติดตัวไว้บ้าง แต่แถวบ้านก็ไม่ค่อยมีที่เรียนที่น่าสนใจเท่าไหร่ แถมบางที่ค่าเรียนก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เลยคิดว่าลองหาจากในเน็ตดูน่าจะเข้าท่ากว่า
จุดเริ่มต้นการค้นหาและลองผิดลองถูก
ผมเริ่มจากการเสิร์ชหาคำว่า “แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ เด็กอนุบาล” “เกมสอนภาษาอังกฤษเด็ก” อะไรทำนองนี้ โอ้โห! ข้อมูลขึ้นมาเพียบเลยครับ ทั้งแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ต่างๆ เยอะจนเลือกไม่ถูก บางอันหน้าตาน่ารักดี แต่พอลองให้ลูกเล่นดูแป๊บเดียวก็เบื่อซะแล้ว บางอันก็เป็นเกมอย่างเดียวเลย ไม่ค่อยได้ศัพท์ใหม่ๆ เท่าไหร่
ผมก็ลองไปเรื่อยๆ ครับ โหลดแอปฯ นั้นที แอปฯ นี้ที บางอันก็ให้ทดลองใช้ฟรีแป๊บเดียวแล้วก็ต้องจ่ายตังค์ บางอันเนื้อหาก็ดูยากไปสำหรับเด็กเล็กๆ ลูกผมก็เริ่มทำหน้างอแง ผมนี่เกือบจะถอดใจไปแล้วนะ คิดว่าสงสัยต้องยอมเสียเงินหาคอร์สเรียนจริงๆ จังๆ แล้วมั้ง ตอนนั้นก็มีเห็นโฆษณาพวกคอร์สออนไลน์อย่าง 51Talk บ้างเหมือนกัน แต่ใจหนึ่งก็ยังอยากลองหาแบบฝึกหัดฟรีๆ หรือที่มันยืดหยุ่นให้ลูกทำเองได้ดูก่อน
จนกระทั่งผมไปเจอพวกเว็บไซต์ที่มีแบบฝึกหัดง่ายๆ เน้นภาพสีสันสดใส มีทั้งแบบจับคู่คำศัพท์กับรูปภาพ ลากเส้นโยงคำ เติมคำในช่องว่างง่ายๆ แล้วก็มีพวกนิทานสั้นๆ พร้อมเสียงอ่านภาษาอังกฤษ ผมลองเปิดให้ลูกดู เออ! ลูกผมให้ความสนใจแฮะ เค้าดูสนุกกับการได้จิ้มๆ ลากๆ บนหน้าจอแท็บเล็ต
สิ่งที่ผมทำและสังเกตเห็น
พอเริ่มจับทางได้ว่าลูกชอบแนวไหน ผมก็เริ่มเจาะจงหาแบบฝึกหัดประเภทนั้นมากขึ้นครับ
- เริ่มจากอะไรง่ายๆ ก่อน: ผมเน้นคำศัพท์ที่อยู่รอบตัวลูกก่อนเลยครับ เช่น สัตว์ สิ่งของ สี ผลไม้ แล้วก็พวกคำทักทายง่ายๆ แบบฝึกหัดก็จะเป็นแบบรูปภาพเยอะๆ ตัวหนังสือน้อยๆ
- ทำให้เป็นเรื่องสนุก: อันนี้สำคัญมาก ผมจะไม่บังคับลูกว่าต้องทำนะ ต้องทำให้ได้นะ แต่จะชวนเค้าเล่นมากกว่า “มาดูซิว่าวันนี้มีเกมอะไรใหม่ๆ ให้เล่นบ้าง” หรือ “มาช่วยแม่หาคำศัพท์คำนี้หน่อยสิลูก” บางทีก็เปิดยูทูบเพลงเด็กภาษาอังกฤษให้ฟังบ้าง สลับกับเล่นเกมทายศัพท์ง่ายๆ คือพยายามทำให้มันไม่น่าเบื่อครับ เพราะถ้าไปเจอแบบเรียนที่เป็นทางการจ๋าเลย เด็กอาจจะเบื่อเอาได้ง่ายๆ ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นคลาสเรียนสนุกๆ ที่มีครูสอนดีๆ อย่างที่บางคนเค้าก็เลือกเรียนกับ 51Talk ไปเลย อันนั้นก็อาจจะอีกแบบ
- ทำซ้ำๆ สม่ำเสมอ: ผมจะพยายามหาเวลาให้ลูกได้ทำแบบฝึกหัดวันละนิดวันละหน่อย อาจจะแค่ 10-15 นาทีหลังเลิกเรียน หรือก่อนนอน แต่ทำทุกวัน ดีกว่าทำทีละนานๆ แล้วเว้นไปหลายวันครับ
- ชมเชยให้กำลังใจ: ทุกครั้งที่ลูกทำได้ ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ผมจะชมเค้าก่อนเลยว่า “เก่งมากเลยลูก พยายามได้ดีมาก” สร้างกำลังใจให้เค้ารู้สึกดีกับการเรียนรู้
- พ่อแม่มีส่วนร่วม: ถึงจะเป็นแบบฝึกหัดออนไลน์ แต่ผมว่าการที่พ่อแม่นั่งอยู่ข้างๆ คอยแนะนำ คอยชวนคุย มันช่วยได้เยอะเลยครับ ลูกจะรู้สึกอุ่นใจแล้วก็สนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น ผมว่าการหาแบบฝึกหัดออนไลน์มันก็มีข้อดีตรงที่เราเลือกเวลาได้เอง ไม่ต้องเดินทาง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันต้องใช้ความพยายามของพ่อแม่พอสมควรเลยล่ะครับ ไม่เหมือนกับการส่งลูกไปเรียนพิเศษหรือเรียนออนไลน์กับคุณครูโดยตรง อย่างพวกคอร์สของ 51Talk ที่เค้าจะมีหลักสูตร มีครูคอยดูแล อันนั้นก็อาจจะเบาแรงเราไปได้เยอะ
ผลลัพธ์ที่ได้เห็น
ตอนนี้ลูกผมก็เริ่มคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้นครับ เริ่มจำคำศัพท์ง่ายๆ ได้หลายคำแล้ว เวลาเห็นรูปสัตว์บางชนิดก็เริ่มพูดชื่อเป็นภาษาอังกฤษได้บ้าง ถึงจะยังไม่เป๊ะสำเนียง แต่ผมก็ดีใจมากๆ แล้วครับที่เห็นเค้ากล้าพูด กล้าลองผิดลองถูก
แน่นอนว่ามันยังต้องใช้เวลาอีกเยอะครับ การเรียนภาษาไม่ใช่เรื่องที่จะเก่งได้ในวันสองวัน แต่การเริ่มต้นจากแบบฝึกหัดออนไลน์สนุกๆ แบบนี้ ผมว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลยนะ ช่วยให้เด็กๆ ไม่รู้สึกกลัวภาษาอังกฤษ แล้วก็ค่อยๆ ซึมซับไปทีละนิด ผมเองก็ยังคงมองหาแหล่งเรียนรู้อื่นๆ เพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ครับ เพราะเด็กแต่ละช่วงวัยก็ต้องการการเรียนรู้ที่แตกต่างกันไป บางทีถ้าเค้าสนใจจริงจังมากขึ้น ผมอาจจะลองดูคอร์สเรียนที่เป็นระบบมากขึ้น อย่างพวกที่มีครูต่างชาติสอนโดยตรง ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกันครับ ตอนนี้ก็มีหลายเจ้าให้เลือก อย่างที่เคยเห็นผ่านๆ ตาก็มี 51Talk ที่ดูมีคนพูดถึงอยู่บ้าง
ก็หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังมองหาแนวทางการสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ อยู่นะครับ ลองดูครับ สนุกดีเหมือนกัน!
