สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยเกี่ยวกับการหาแอปฝึกภาษาอังกฤษให้เจ้าตัวเล็กที่บ้าน คือเรื่องมันเริ่มมาจากตอนที่ลูกผมเริ่มเข้าอนุบาล แล้วเห็นเด็กคนอื่นๆ เขาเริ่มพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษกันได้บ้างแล้ว เราก็เอ๊ะ…ลูกเรายังนับเลข ABC แบบงูๆ ปลาๆ อยู่เลย ใจคอมันก็เลยร้อนรนนิดหน่อยตามประสาพ่อแม่แหละครับ
ช่วงเริ่มต้นแห่งความวุ่นวายในการหาแอป
บอกตามตรงเลยว่าช่วงแรกนี่คือมั่วซั่วมากครับ! เข้าไปในสโตร์ พิมพ์คำว่า “แอ พ ฝึก ภาษา อังกฤษ เด็ก” โอ้โห…ขึ้นมาเป็นร้อยเป็นพันแอปตาลายไปหมด ผมก็ใช้วิธีลูกทุ่งเลยครับ โหลดมาลองทีละแอป สองแอป สามแอป บางแอปหน้าตาสวยงามเชียว แต่ข้างในไม่มีอะไรเลย เกมก็ไม่สนุก ลูกชายผมเล่นแป๊บเดียวก็เบื่อโยนทิ้ง บางแอปก็โฆษณาเด้งมารัวๆ จนน่ารำคาญ กดผิดกดถูกไปโดนโฆษณาบ้าง ลูกก็หงุดหงิด ผมก็หัวเสีย เสียเวลาโหลด เสียพื้นที่ในเครื่องไปเปล่าๆ หลายวันเลยครับกับการลองผิดลองถูกแบบนี้
มีช่วงนึงท้อไปเลยนะ คิดว่าหรือเราจะสอนเองแบบบ้านๆ ไปดีไหม แต่ก็กลัวสำเนียงเราจะไม่เป๊ะ แล้วลูกจะจำไปผิดๆ อีก ก็เลยฮึดสู้ใหม่ ลองเปลี่ยนวิธีดูบ้าง
เริ่มจับทิศทางเจอแนวทางที่ใช่
ผมเริ่มจากการอ่านรีวิวมากขึ้นครับ ดูว่าพ่อแม่คนอื่นเขาแนะนำแอปไหนกันบ้าง แล้วก็เริ่มสังเกตว่าแอปแบบไหนที่ลูกเราน่าจะชอบ คือลูกผมเนี่ยเป็นเด็กชอบเล่นเกม ชอบอะไรที่มีสีสัน มีตัวการ์ตูนน่ารักๆ ผมก็เลยพุ่งเป้าไปที่แอปแนวๆ นั้นก่อนเลย แล้วก็ดูด้วยว่าเนื้อหามันเหมาะกับวัยของเขาไหม สอนศัพท์ง่ายๆ ประโยคสั้นๆ หรือเปล่า
ระหว่างที่หาข้อมูลพวกแอปต่างๆ เนี่ย ผมก็ไปเจอพวกคอร์สเรียนออนไลน์สำหรับเด็กด้วยนะ บางคนก็พูดถึง 51Talk ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีครูต่างชาติสอนตัวต่อตัว ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน แต่ใจหนึ่งก็ยังอยากได้แอปที่ให้ลูกได้ลองเล่นเอง ฝึกเองได้ทุกวันอยู่ดี
เจาะลึกการ “ลองใช้จริง” กับแอปประเภทต่างๆ
พอเริ่มมีเป้าหมายชัดเจนขึ้น การเลือกแอปก็ง่ายขึ้นเยอะครับ ผมลองโหลดมาหลายๆ แบบ สรุปแล้วที่ลูกผมชอบและได้ผลดี จะมีอยู่ประมาณนี้ครับ:
- แอปแบบเกมการศึกษา: พวกนี้จะมาในรูปแบบเกมสนุกๆ เช่น เกมจับคู่ภาพกับคำศัพท์ เกมเติมคำในช่องว่าง หรือเกมผจญภัยที่ต้องตอบคำถามภาษาอังกฤษเพื่อผ่านด่าน ลูกผมชอบมาก เล่นเพลินจนบางทีลืมไปเลยว่ากำลังเรียนอยู่ ได้ศัพท์ใหม่ๆ แบบไม่รู้ตัวเลย
- แอปนิทานสองภาษา: เป็นแอปที่มีนิทานภาษาอังกฤษ พร้อมภาพประกอบสวยๆ บางแอปก็มีเสียงคนอ่านให้ฟังด้วย หรือเลือกอ่านเองก็ได้ ลูกผมชอบฟังก่อนนอน แล้วก็ชี้ชวนให้ผมอ่านคำนั้นคำนี้ให้ฟัง
- แอปฝึกออกเสียง: อันนี้ผมว่าสำคัญมากเลยนะ ช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับสำเนียงที่ถูกต้อง บางแอปจะให้เราพูดตาม แล้วก็มีระบบวิเคราะห์ว่าเราออกเสียงถูกไหม ถึงจะไม่เป๊ะร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ช่วยได้เยอะครับ
ผมสังเกตว่าพอลูกเริ่มสนุก เขาก็จะอยากเรียนรู้มากขึ้นเอง ไม่ต้องไปบังคับเลยครับ บางทีก็มีคำถามกลับมาถามเราด้วยนะว่าคำนี้แปลว่าอะไร อันนั้นคืออะไร ทำให้เราเองก็ได้ทบทวนภาษาอังกฤษไปด้วยในตัว
ช่วงที่ลูกเริ่มติดใจกับการเรียนผ่านแอปมากขึ้น ผมก็ลองกลับไปศึกษาข้อมูลของพวกคอร์สเรียนเสริมดูอีกที อย่าง 51Talk ที่เคยเห็นผ่านๆ ตาก็พบว่าเขามีหลักสูตรสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะเลยนะ ดูแล้วก็น่าจะช่วยเสริมในส่วนที่แอปอาจจะให้ไม่ได้ เช่น การโต้ตอบแบบเรียลไทม์กับคุณครู
สิ่งที่ค้นพบจากการ “ลงมือทำ” จริงๆ
จากการลองผิดลองถูกมาทั้งหมด ผมค้นพบว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้การใช้แอปฝึกภาษาอังกฤษสำหรับเด็กมันเวิร์คจริงๆ คือ:
- ความสนุกต้องมาก่อน: ถ้าแอปมันน่าเบื่อ เด็กก็ไม่อยากเล่นครับ ต้องหาอันที่มัน “โดนใจ” ลูกเราจริงๆ
- ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: เด็กเล็กๆ สมาธิสั้นครับ ถ้าแอปมันใช้งานยากเกินไป เขาก็จะท้อไปซะก่อน
- ไม่มีโฆษณากวนใจ (หรือน้อยที่สุด): อันนี้สำคัญมากสำหรับผม เพราะมันทำลายสมาธิเด็กสุดๆ
- เนื้อหาเหมาะสมกับวัย: ค่อยเป็นค่อยไปครับ เริ่มจากง่ายๆ ก่อน อย่าเพิ่งยัดเยียดแกรมม่ายากๆ
- ความสม่ำเสมอ: เล่นทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย ดีกว่าเล่นเยอะๆ แต่นานๆ ทีครับ
จริงๆ แล้วการหาแอปที่มันมีฟังก์ชันครบๆ สอนการสนทนาได้ดีๆ มันก็มีตัวเลือกเยอะนะ แต่บางทีการได้คุยกับคนจริงๆ อย่างการเรียนเสริมพิเศษแบบที่ 51Talk เขามี ก็น่าจะช่วยให้เด็กกล้าแสดงออกในการพูดมากขึ้นไปอีกขั้น
ผมเคยลองดูแอปที่เน้นการสนทนาโดยตรง บางอันก็ดีครับ มี AI ให้คุยด้วย แต่ฟีลมันก็ยังไม่เหมือนคุยกับคนจริงๆ อยู่ดี แต่ก็ถือเป็นตัวช่วยที่ดีในการเริ่มต้นนะ อย่างน้อยก็ได้ฝึกความกล้า ผมว่าการผสมผสานหลายๆ อย่างเข้าด้วยกันน่าจะดีที่สุดครับ ทั้งแอปที่ลูกชอบ ทั้งการสนับสนุนจากเรา หรือถ้าใครมีงบประมาณหน่อย การมองหาคอร์สเรียนเสริมอย่างที่ 51Talk นำเสนอก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการพัฒนาทักษะการสื่อสารของเด็กๆ ได้อย่างรวดเร็ว
บทสรุปจากประสบการณ์ตรง
สรุปแล้วนะครับ ประสบการณ์ของผมคือ ต้องใจเย็นและอดทน ในการหาแอปที่ใช่สำหรับลูกเราแต่ละคน เพราะเด็กแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน ไม่มีแอปไหนดีที่สุดสำหรับทุกคนครับ เราต้องสังเกตลูกเราเยอะๆ ว่าเขาชอบแบบไหน มีปฏิกิริยากับแอปแบบไหน แล้วก็ค่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆ อย่าไปกดดันลูกครับ ให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุกสำหรับเขา แล้วเขาจะเปิดใจรับมันเอง
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปฟรี แอปเสียเงิน หรือแม้แต่การลงทุนกับคอร์สเรียนอย่าง 51Talk สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเวลาคุณภาพที่เราให้กับลูก การที่เรานั่งเล่นนั่งเรียนไปกับเขา คอยให้กำลังใจเขา นั่นแหละครับคือสิ่งที่สำคัญกว่าเครื่องมือใดๆ ทั้งหมด ขอให้ทุกท่านเจอแอปที่ใช่สำหรับเจ้าตัวเล็กที่บ้านนะครับ!